ค้นหาบล็อกการเรียนรู้
เรียนรู้การสร้างประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง
ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษใช้บ่อยทั้งในภาษาเขียนและภาษาพูด โดยใช้เพื่อ ปฏิเสธ โต้แย้งสิ่งที่ไม่จริง ไม่เป็นความจริง หรือแสดงความไม่เห็นด้วย โดยบทความวันนี้ PREP จะนำเสนอความหมาย วิธีการสร้าง และโครงสร้างประโยคปฏิเสธที่พบได้บ่อย
- I. ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษคืออะไร
- II. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ
- 1. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธกับ 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ
- 2. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ modal verbs
- 3. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ “Any, anybody, anyone, anything, anywhere”
- 4. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ "no, not, never, none, nobody"
- 5. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ adverbs เชิงลบ
- 6. โครงสร้างของ double negative sentences
- 7. โครงสร้างอื่นๆ ของประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษ
- III. ความแตกต่างระหว่างประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
- IV. แบบฝึกหัด ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ
I. ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษคืออะไร
ก่อนอื่น เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายและคำที่เป็นจุดสังเกตของประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษกับ PREP กัน!
1. ความหมาย
ประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษคืออะไร ประโยคปฏิเสธ (negative sentences) คือประโยคที่ประกอบด้วยคำที่มีความหมายเชิงลบ เช่น "not", "no", "never", หรือ "nothing" และมักแสดงความหมายว่า "ไม่ทำ" หรือ "ไม่เป็น"
ประโยค negative ตัวอย่าง:
- My sister does not like snakes. (พี่สาวฉันไม่ชอบงู)
- Henry is not handsome. (Henry ไม่หล่อเลย)
- I will never talk to that man again. (ฉันจะไม่คุยกับผู้ชายคนนั้นอีก)
2. สัญญาณการรับรู้ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ
คำที่จะบอกว่าเป็นประโยคปฏิเสธคือ: "not", "no", "never" และ “nothing" ตัวอย่างเช่น:
- No one had gathered in the auditorium. (ไม่มีใครมารวมตัวกันในหอประชุม)
- There's nothing in the fridge. (ไม่มีอะไรอยู่ในตู้เย็น)
II. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ
นี่คือสรุปโครงสร้างของประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษโดย PREP!
1. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธกับ 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ
เรามาเรียนรู้โครงสร้างของประโยคปฏิเสธกับทั้ง 12 Tenses พร้อมตัวอย่างที่ข้างล่างนี้
12 Tenses |
โครงสร้างของประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ |
ตัวอย่าง |
Present Simple |
Regular verbs: S + do/does + not + V-inf + (O)
To be: S + am/ is/ are + not + (O)
|
Malisa doesn’t usually go to spa. (Malisa ไม่ค่อยไปสปา) It is not my backpack. (นี่ไม่ใช่กระเป๋าเป้ของฉัน) |
Present Continuous |
S + am/ is/ are + not + V-ing + (O) |
Henry is not having breakfast right now. (Henry ไม่กินอาหารเช้าตอนนี้) |
Present Perfect |
S +have/has + not + V3 + (O)
|
My friend hasn’t eaten anything since the morning. (เพื่อนของฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า) |
Present Perfect Continuous |
S + have/ has + not + been + V-ing + (O) |
Ms. Smith hasn’t been feeling well recently. (นาง Smith ไม่ค่อยสบายช่วงนี้) |
Past Simple
|
Regular verbs: S + did not + V-inf + (O)
To be: S + was/ were + not + (O)
|
Yesterday, I didn’t hang out with my friends. (ฉันไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆเ มื่อวานนี้) Last week, we were not in New York. (เราไม่ได้อยู่ที่นิวยอร์กสัปดาห์ที่แล้ว) |
Past Continuous |
S + was/were + not + V-ing + (O) |
Matthew was not studying English at 9pm last night. (Matthew ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษตอน 21.00 น. เมื่อคืน) |
Past Perfect |
S + had not + V3 + (O)
|
Linda hadn’t visited Ayutthaya before I recommended it to her. (Linda ไม่เคยไปอยุธยาก่อนที่ฉันแนะนำ) |
Past Perfect Continuous |
S + had not + been + V-ing + (O) |
I hadn’t been meeting Nina for 3 years until I ran into her at the coffee yesterday. (ฉันไม่เจอ Nina มา 3 ปีจนฉันเจอเธอที่ร้านกาแฟเมื่อวานนี้) |
Future Simple |
S + will not + V-inf + (O)
|
Lalisa won’t go to school next week. (Lalisa จะไม่ไปโรงเรียนในสัปดาห์หน้า) |
Future Continuous |
S + will not + be + Ving + (O) |
This time next month, I will not be working at this company. (ในเวลานี้ของเดือนหน้า ฉันจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทนี้แล้ว) |
Future Perfect |
S + will not + have + V3 + (O) |
They will not have started the party before you get there. (พวกเขาจะไม่เริ่มปาร์ตี้ก่อนที่คุณถึง) |
Future Perfect Continuous |
S + will not + have + been + V-ing + (O) |
I won’t have been playing games for 2 months by the end of December. (ฉันจะไม่ได้เล่นเกมส์ไปอีก 2 เดือนจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม) |
2. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ modal verbs
เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ modal verbs พร้อมตัวอย่างด้านล่างนี้!
โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ modal verbs:
|
||
Modal verbs |
ตัวอย่าง |
|
ความสามารถ
|
can/ could/ be able to |
I cannot attend the meeting tomorrow because I have a prior commitment. (ฉันไม่สามารถเข้าประชุมพรุ่งนี้ได้ เนื่องจากฉันติดภารกิจอยู่) |
คำแนะนำ
|
must/ should/ ought to/ could |
Robert should not eat too much junk food if he wants to stay healthy. (Robert ไม่ควรกินอาหารขยะมากเกินไปหากเขาอยากสุขภาพดี) |
ความจำเป็นและความต้องการ |
must/ have to/ need |
You must not park your car in this area; it's reserved for employees only. (คุณไม่สามารถจอดรถในพื้นที่นี้ได้ มันถูกสำรองไว้สำหรับพนักงานเท่านั้น) |
ความแน่นอนและความเป็นไปได้ |
will/ would/ may/ might/ can/ could |
Chris might not be able to make it to the party, as he has a busy schedule that day. (Chris อาจไม่สามารถไปงานปาร์ตี้ได้ เนื่องจากเขามีตารางงานที่ยุ่งในวันนั้น) |
3. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ “Any, anybody, anyone, anything, anywhere”
คำว่า "not" จะถูกใช้ในประโยคปฏิเสธภาษาอังกฤษที่เริ่มต้นด้วย "some, someone, somebody, something, somewhere" แต่จะใช้ "any, anyone, anybody, anything, anywhere" แทน ตัวอย่างเช่น:
- There aren’t some seats left. ➞ ❌ (ที่นั่งเหลือไม่มากแล้ว)
- There aren’t any seats left. Unfortunately, you’ll have to stand. ➞ ✅ (ไม่มีที่นั่งว่างเลย น่าเสียดายจัง คุณต้องยืนแล้ว)
ตามหลังกริยาที่มีความหมายปฏิเสธ เช่น: “decline/refuse”, เราใช้ “anything” แทน “something” ตัวอย่างเช่น: Jerry refused to tell me anything about it. (Jerry ปฏิเสธที่จะบอกฉันเรื่องเกี่ยวกับมัน)
4. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ "no, not, never, none, nobody"
เราสามารถใช้คำ วลี หรืออนุประโยคในเชิงลบ เช่น "no, not, never, none, nobody,..." เพื่อแสดงว่าบางสิ่งไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น:
- My mother has never been abroad. (แม่ของฉันไม่เคยไปต่างประเทศเลย)
- There were no newspapers left on the bookshelf by one o’clock. (ตอนบ่ายโมง ไม่มีหนังสือพิมพ์เหลืออยู่บนชั้นแล้ว)
- Nobody came to the apartment for several days. (ไม่มีใครมาที่อพาร์ตเมนต์หลายวันแล้ว)
- None of my cousins live near me. (ไม่มีญาติพี่น้องไหนอยู่ใกล้ฉัน)
5. โครงสร้างของประโยคปฏิเสธที่ใช้ adverbs เชิงลบ
ที่ต้นประโยค เราใช้ adverb เชิงลบ "hardly, little, never, only, scarcely, และ seldom" และย้อนกลับประโยค (invertion) ให้กริยาไปไว้หน้าประธานหลัก
- Hardly had Alan left the office when the rain started pouring. (Alan เพิ่งออกจากสำนักงาน ฝนก็เริ่มตกหนัก)
- Little did Peter know that we would never meet again. (Peter ไม่คิดเลยว่าเราจะไม่มีวันพบกันอีก)
เรายังสามารถย้อนประธานและกริยากลับ "Not + วลีก่อนหน้า" หรือ "Not + ประโยคในตำแหน่งหน้า" ตัวอย่างเช่น:
- Not for a moment did Joe think she would be offered the job, so she was amazed when she got it. (ไม่มีตอนไหนเลยที่ Joe คิดว่าเขาจะได้รับงานนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกประหลาดใจ)
- Not till I got home did I realize my key was missing. (ฉันไม่สังเกตเลยว่ากุญแจของฉันหายจนกว่าถึงบ้าน)
6. โครงสร้างของ double negative sentences
ในภาษาอังกฤษ เมื่อใช้ “nobody, nowhere, never หรือ nothing” เราไม่ใช้ negative verbs ตัวอย่างเช่น:
- Alex had nothing interesting to tell his girlfriend. ➞ ✅(Alex ไม่มีอะไรน่าสนใจที่จะบอกแฟนสาว)
- Alex hadn’t nothing interesting to tell his girlfriend. ➞ ❌
- It was 10 am but there was nobody in the class. ➞ ✅ (10 โมงแล้วแต่ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย ➞ ✅)
- It was 10 am but there wasn’t nobody in the class. ➞ ❌
อย่างไรก็ตาม โครงสร้าง double negative sentences อาจจะถูกใช้งานโดยคนอเมริกันบางกลุ่ม แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นภาษาแบบมาตรฐาน
ไม่เป็นทางการ |
เป็นทางการ |
Jennie couldn’t never work with nobody like that. (Jennie ไม่สามารถทำงานร่วมกับใครแบบนั้นได้) |
Jennie couldn’t ever work with anybody like that. |
Jack never says nothing interesting to no one. (Jack ไม่เคยพูดอะไรน่าสนใจให้ใครฟังเลย) |
Jack never says anything interesting to anyone. |
อย่างไรก็ตาม เราสามารถทำให้ความหมายของ adjective อ่อนหรือลดลงได้โดยการใช้ not รวมกับคำนำหน้าเชิงลบ (เช่น un-, in-) กับคำ adjective และ adverb โดยความหมายของจะกลายเป็นประโยคบอกเล่าในการเขียนแบบเป็นทางการ ตัวอย่างเช่น:
- This year’s rise in inflation to 5% was not unexpected. (การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในปีนี้เป็น 5% ไม่ใช่เรื่องที่ไม่คาดคิด)
- The difference between the two results was not insignificant. (ความแตกต่างระหว่างผลลัพธ์สองอย่างไม่ใช่เรื่องไม่สำคัญ)
7. โครงสร้างอื่นๆ ของประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษ
7.1. Negative questions
ประโยคปฏิเสธในภาษาอังกฤษสามารถทำให้อยู่ในรูปแบบของคำถาม ตัวอย่างเช่น:
- What don’t you understand about the project? (คุณไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับโปรเจกต์คะ)
- Won’t we be able to see the result? (เราจะไม่สามารถเห็นผลได้หรอ)
- Isn’t that Lucas’s sister? (นั่นไม่ใช่น้องสาวของ Lucas หรอ)
7.2. Negative imperative sentences
เราใช้ “Do + not + V = Don't + V” เพื่อสร้างประโยคคำสั่งปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น:
- Do not close it until I tell you. (อย่าปิดมันจนกว่าฉันบอกให้ทำ)
- Don’t take the bike. Go on your car. (อย่าเอาจักรยาน ไปด้วยรถเถอะ)
7.3. Negative sentences ใน non-finite clauses
Non-finite clause คือ clause ที่ไม่มีประธาน มีกริยาหลักอยู่ในรูปแบบ “to-infinitive, -ing, หรือ -ed” เพื่อทำให้ non-finite clause เป็นปฏิเสธ สามารเติม “not” ลงไปได้ ตัวอย่างเช่น:
- Not to have invited Jackson to our little party would have been impolite. (การไม่เชิญ Jackson มางานเลี้ยงเล็ก ๆ ของเราถือว่าเป็นเรื่องไม่สุภาพ)
- Lenny left the house very quietly, not wishing to alarm anyone. (Lenny ออกจากบ้านอย่างเงียบๆ เพราะไม่อยากจะทำให้ใครตื่น
7.4. Negative sentences with the purpose of emphasizing
เมื่อเราต้องการเน้นย้ำอะไรในลักษณะปฏิเสธ เรามักใช้ "at all" ตัวอย่างเช่น:
- There’s nothing at all left in the fridge. (ไม่มีอะไรเลยในตู้เย็น)
- We had no rain at all this summer and now we have floods. (ฝนไม่ตกเลยในฤดูร้อนนี้และตอนนี้เรามีน้ำท่วม)
7.5. Negative sentences with negative prefixes and suffixes
เราสามารถสร้างคำให้เป็นปฏิเสธได้โดยการเพิ่ม suffix “de-, dis-, il-/im-/in-/ir-, mis-, non-, un-,...” หรือ prefix “-less” ตัวอย่างเช่น:
- Peter was very disrespectful to the teacher. (Peter ไม่เคารพครูมาก ๆ)
- This new phone is useless; it’s always breaking down. (โทรศัพท์ใหม่นี้ไร้ประโยชน์ พังตลอดเวลา)
นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างประโยคปฏิเสธอื่น ๆ ที่พบบ่อยในภาษาอังกฤษอีก ตัวอย่างเช่น:
โครงสร้าง |
ตัวอย่าง |
Neither Neither of Neither … nor Not … either |
|
Neither do I |
|
Not any |
There aren’t any cookies left. They’ve eaten them all. (ไม่มีคุกกี้เหลือเลย พวกเขากินหมดแล้ว) |
I’m not sure |
I’m not sure if this is the right person for me. (ฉันไม่แน่ใจว่านี่คือคนที่ใช่หรือไม่) |
I don’t think |
Susan is not a teacher, I don’t think./I don’t think Susan is a teacher.) (Susan ไม่ใช่ครู/ ฉันไม่คิดว่า Susan เป็นครู) |
III. ความแตกต่างระหว่างประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
เรามาแยกแยะระหว่างประโยคปฏิเสธและประโยคคำถามในภาษาอังกฤษกับตัวอย่างด้านล่างนี้!
ความหมาย |
ตัวอย่าง |
|
ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ |
|
I don’t like Maths. (ฉันไม่ชอบคณิตศาสตร์) |
ประโยคคำถาม |
|
|
IV. แบบฝึกหัด ประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ
เรามาทำ 2 แบบฝึกหัดด้านล่างให้เข้าใจเกี่ยวกับประโยคปฏิเสธมากขึ้นกัน!
1. แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดที่ 1: เติมคำกริยาในรูปปฏิเสธให้กับประโยค
- Micro______(not read) books in the morning.
- The children______(not visit) the museum last week.
- Students______(not play) soccer at the moment.
- My sister______(not study) when I called at 8pm last night.
- Anna______(not visit) her grandmother next week.
แบบฝึกหัดที่ 2: เขียนคำที่อยู่ในวงเล็บให้อยู่ในรูปที่ถูกต้อง
- She's feeling very (happy) about the situation.
- The neighbor was (unfriend) and never greeted us.
- It would be (responsible) to ignore these warnings.
- The weather turned (pleasant) with heavy rain and strong winds.
- The report contained (accurate) information, which caused confusion.
2. เฉลย
แบบฝึกหัดที่ 1:
- does not read
- did not visit
- are not playing
- was not studying
- will not visit
แบบฝึกหัดที่ 2:
- unhappy
- unfriendly
- irresponsible
- unpleasant
- inaccurate
PREP หวังว่าบทความนี้จะสามารถให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ โครงสร้าง และความหมายประโยคปฏิเสธ ภาษาอังกฤษ และเราหวังว่าผ่านบทความนี้คุณจะสามารถนำความรู้ไปใช้จริงได้มากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ค้นหาบล็อกการเรียนรู้
Đăng ký tư vấn lộ trình học
Bạn hãy để lại thông tin, Prep sẽ liên hệ tư vấn cho mình ngay nha!