ตอบคำถาม IELTS Speaking Part 2 & 3: Describe a song you like แบบมั่นใจ!

Describe a good piece of music, Describe an interesting song you like หรือ Describe a song you like เป็นหัวข้อที่พบได้บ่อยในข้อสอบ IELTS Speaking โดยเฉพาะใน Part 2 ซึ่งผู้สอบมักถูกขอให้พูดถึงเพลงที่พวกเขาชื่นชอบ

ในบทความนี้ PREP จะช่วยแนะนำโครงสร้างการตอบคำถาม พร้อมทั้งตัวอย่างคำตอบ และคำศัพท์ที่เป็นประโยชน์สำหรับหัวข้อนี้ ลองปรึกษาตัวอย่างในหัวข้อ Describe a song you like เพื่อพัฒนาทักษะการพูดของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพจากที่บ้าน!

I. ตัวอย่างคำตอบ IELTS Speaking Part 2, 3: Describe a song you like

1. Cue Card: Describe a song you like

คำถามตัวอย่าง:

Describe a song you like (Describe a piece of music you like). You should say:

• What it is?
• Which country the song comes from?
• What story the song tells?

And explain why you think it is interesting?

2. โครงร่างคำตอบ

2.1. ตัวอย่างไอเดีย

หัวข้อ Describe a song you like ขอให้ผู้สอบบรรยายเพลงที่น่าสนใจ โดยให้ข้อมูลดังนี้:

หัวข้อนี้จัดอยู่ในหมวดใหญ่ของ Favorites (สิ่งที่ชื่นชอบ) ซึ่งวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดในการตอบคำถามคือการทำตามคำใบ้ในโจทย์อย่างใกล้ชิด และให้ข้อมูลที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงการตอบแบบกว้าง ๆ

คำถามแรก: "What is the song?"
คำถามนี้ตอบง่าย เพราะทุกคนล้วนเคยได้ยินเพลงมามากมาย สิ่งที่คุณต้องทำคือเลือกเพลงที่คุณคิดว่าน่าสนใจและรู้สึกมั่นใจที่จะแบ่งปันกับผู้สอบ

คำถามที่สอง: "Where does the song originate from?"
ในคำถามนี้ คุณสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งเพลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องตอบตรง ๆ ว่าเพลงนี้มาจากประเทศอะไร คุณสามารถพูดถึงการแต่งเพลงหรือการแสดงโดยนักร้องหรือวงดนตรีจากประเทศใดประเทศหนึ่ง นอกจากนี้ คุณยังอาจพูดถึงความนิยมของเพลงนั้นด้วย ซึ่งเป็นการเสริมเนื้อหาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

คำถามที่สาม: "What story does the song tell?"
ในส่วนนี้ คุณไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดลึกมาก เพียงแค่สรุปเนื้อหาโดยย่อใน 2-3 ประโยคก็เพียงพอ

คำถามสุดท้ายและสำคัญที่สุด: "Why do you find the song interesting?"
ผู้สอบควรใช้เวลามากที่สุดกับคำถามนี้ เพราะเป็นหัวใจหลักของหัวข้อ Describe a song you like เพื่อให้คำตอบชัดเจนและสอดคล้อง คุณควรนำเสนอมุมมองที่ชัดเจน พร้อมทั้งใช้ภาษาที่แสดงถึงความคิดเห็นและอารมณ์ส่วนตัวต่อเพลงนั้น

2.2. One-minute note taking (การจดโน้ตหนึ่งนาที)

3. ตัวอย่างคำตอบ IELTS Speaking Part 2: Describe a song you like

ด้านล่างนี้คือตัวอย่างหัวข้อ Describe a song you like ของ IELTS Speaking ส่วนที่ 2 ซึ่งรวบรวมโดยครู PREP อ้างอิงหัวข้อดังกล่าวเพื่อฝึกฝน IELTS Speaking ที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ!

มาฟังตัวอย่าง IELTS Speaking Part 2 - Describe a song you like.

I honestly don’t have my favorite genre as my playlist includes all kinds of music. But if you want me to pick a song that I like the most, it would definitely be Bohemian Rhapsody.

Coming across the song while watching the movie of the same title in 2018, I was in love with it the moment when the first note was hit. The song was composed by Freddie Mercury and performed by the legendary Queen, a world-renowned UK rock band back in the 1970s. It became a global phenomenon right after its release, dominating every single music chart at that time. 

Until now, there hasn’t been an exact explanation of the meaning of the song, even from the band itself. But, rumor has it that it was Freddie’s confession - his coming out story. It was probably about how different his life could have been, and how much happier he might have been, had he just been able to be himself. 

The thing that strikes me the most about this iconic hit is Freddy’s genius composing skill. Lots of cultural and historical elements are included in the song, yet they were incorporated so well for us to understand Freddy’s train of thought when writing the song.

Besides, what gets me hooked on this 6-minute-long piece also lies in the musical techniques showcased. The song is such a masterpiece of imagination with a great command of musical styles, ranging from Rock, Ballad to Acapella. It is so intricate and has so many layers of complexity that nobody can ever expect. Every verse in Bohemian Rhapsody brings a different type of feeling and listening to it is like discovering the art of music at its finest. 

Almost 50 years have passed since the release of Bohemian Rhapsody, it still remains one of the greatest hits and my all-time favorite.

บอกตามตรง ฉันไม่มีแนวเพลงโปรดที่ชัดเจน เพราะเพลย์ลิสต์ของฉันรวมเพลงทุกประเภท แต่ถ้าต้องเลือกเพลงที่ฉันชอบที่สุด คงหนีไม่พ้น Bohemian Rhapsody

ฉันได้เจอเพลงนี้ครั้งแรกตอนดูหนังที่มีชื่อเดียวกันในปี 2018 และฉันตกหลุมรักเพลงนี้ทันทีตั้งแต่โน้ตแรกเริ่มบรรเลง เพลงนี้แต่งโดย Freddie Mercury และร้องโดย Queen วงร็อกในตำนานจากสหราชอาณาจักรในช่วงปี 1970 เพลงนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกทันทีหลังจากปล่อยออกมา และครองอันดับ 1 ในทุกชาร์ตเพลง ณ เวลานั้น

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัดเกี่ยวกับความหมายของเพลง แม้แต่จากวงเอง แต่มีข่าวลือว่าเพลงนี้เป็นการสารภาพของ Freddie เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขา อาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตที่เขาอาจมีและความสุขที่เขาอาจได้สัมผัสหากเขาได้เป็นตัวของตัวเอง

สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจที่สุดในเพลงฮิตที่เป็นตำนานนี้คือความสามารถอันอัจฉริยะของ Freddie ในการแต่งเพลง เพลงนี้รวมเอาองค์ประกอบทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไว้มากมาย แต่ถูกผสมผสานอย่างลงตัวจนเราเข้าใจความคิดของ Freddie ขณะเขียนเพลงนี้

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ฉันหลงใหลในเพลงยาว 6 นาทีนี้คือเทคนิคดนตรีที่โดดเด่น เพลงนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่เต็มไปด้วยจินตนาการและการแสดงความสามารถทางดนตรี ตั้งแต่ร็อก บัลลาด ไปจนถึงอะคาเปลลา เพลงนี้ซับซ้อนและมีหลายชั้นจนเกินความคาดหมาย ทุก ๆ ท่อนใน Bohemian Rhapsody มอบความรู้สึกที่แตกต่างกัน การฟังเพลงนี้เหมือนกับการค้นพบศิลปะดนตรีในรูปแบบที่ดีที่สุด

แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 50 ปีนับตั้งแต่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมา มันยังคงเป็นหนึ่งในเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นเพลงโปรดตลอดกาลของฉัน

หมายเหตุ: ตัวอย่างนี้สามารถปรับใช้กับหัวข้ออื่น ๆ เช่น "Describe a song that inspires you", "Talk about your favorite piece of music", หรือ "Describe an interesting song you like."

คำศัพท์ที่น่าสนใจจากตัวอย่างนี้

• Genre (noun): แนวเพลง

• Hit the first note (phrase): เริ่มบรรเลงโน้ตแรก

• Compose (verb): แต่งเพลง

• World-renowned (adj.): มีชื่อเสียงระดับโลก

• Global phenomenon (adj.): ปรากฏการณ์ระดับโลก

• Dominate the chart (phrase): ครองอันดับในชาร์ตเพลง

• Rumour has it (idiom): มีข่าวลือว่า

• Iconic (adj.): เป็นสัญลักษณ์หรือที่จดจำได้ดี

• Train of thought (idiom): ความคิดที่ต่อเนื่อง

• Hooked (adj.): หลงใหลหรือถูกดึงดูด

• Showcase (verb): แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่น

• Masterpiece (noun): ผลงานชิ้นเอก

• Intricate (adj.): ซับซ้อน

• At its finest (phrase): ในคุณภาพหรือสภาพที่ดีที่สุด

• All-time favorite (phrase): ที่โปรดปรานที่สุดตลอดกาล

II. ตัวอย่างคำตอบ IELTS Speaking Part 3: Describe a song you like

1. Do people nowadays like the same music as the people in the past ? (คนในปัจจุบันชอบเพลงเหมือนกับคนในอดีตหรือไม่)

Well yes, I genuinely think so. Along with the evolution of music, people’s preferences for music have altered as well. In the past, music lovers used to jam to disco-country songs that they can vibe with anywhere and dance with one another at any gathering. However, in this day and age, they tend to opt for music with catchy tunes and electronic elements like auto-tune that can easily become viral on social platforms. 

ฉันคิดว่าในบางแง่มุมก็ใช่ค่ะ แต่ในหลายแง่มุมก็ต่างออกไป ด้วยการพัฒนาของดนตรี ความชื่นชอบในดนตรีของผู้คนก็เปลี่ยนไปด้วย ในอดีต คนที่ชื่นชอบดนตรีมักฟังเพลงแนวดิสโก้-คันทรี่ที่สามารถฟังและเต้นร่วมกับคนอื่นได้ในงานสังสรรค์ต่าง ๆ

แต่ในยุคปัจจุบัน ผู้คนมักเลือกเพลงที่มีจังหวะสนุก ๆ และมีองค์ประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ออโต้จูน ที่มักจะกลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ง่าย ๆ

คำศัพท์ที่ใช้:

• Evolution (noun): การพัฒนา

• Preference for something (phrase): ความชื่นชอบหรือความสำคัญที่ให้กับบางสิ่ง

• Alter (verb): เปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุง

• Jam to (phrase): สนุกกับการฟังเพลง

• Vibe with (phrase): เชื่อมโยงหรือเข้าถึงได้

• Gathering (noun): การรวมตัวหรือกิจกรรมสังคม

• In this day and age (idiom): ในยุคปัจจุบัน

• Opt for (phrase): เลือกหรือคัดสรร

2. Is there any difference between the liking of music between different age groups? (ความชอบในดนตรีระหว่างกลุ่มอายุที่ต่างกันมีความแตกต่างกันหรือไม่)

Of course. It is obvious that humans at different ages seem to have different tastes in music. Kids would definitely be fond of entertaining music, which is fun and easy to absorb. For teens, coming of age definitely exerts a strong influence on their music preferences as well since their playlist often circles around first love and rebellious songs, which are their main concerns.

When it comes to adults and the elderly, with more life experiences, they have a more diverse music taste. Other than vibing with classic love songs and sometimes reliving the songs of their teens, they also tend to be immersed in mild and soothing instrumental music.  

แน่นอนค่ะ มันชัดเจนว่าคนในแต่ละช่วงอายุมีรสนิยมในดนตรีที่แตกต่างกัน เด็ก ๆ มักจะชอบเพลงที่ให้ความบันเทิง สนุกสนาน และเข้าใจง่าย

สำหรับวัยรุ่น การเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มีอิทธิพลอย่างมากต่อความชอบในดนตรีของพวกเขา เพลงในเพลย์ลิสต์ของพวกเขามักจะหมุนรอบเรื่องรักครั้งแรกหรือเพลงที่แสดงความขบถ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาสนใจในช่วงวัยนี้

ส่วนผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า พวกเขามักมีรสนิยมที่หลากหลายกว่า นอกจากจะชื่นชอบเพลงรักคลาสสิกและบางครั้งฟังเพลงที่เคยชอบในวัยรุ่นแล้ว พวกเขายังมักดื่มด่ำกับดนตรีบรรเลงที่ฟังสบายและช่วยผ่อนคลายอีกด้วย

คำศัพท์ที่ใช้:

• Fond of (phrase): ชื่นชอบหรือหลงใหล

• Coming of age (idiom): การเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

• Circle around (phrase): หมุนรอบหรือเกี่ยวข้องกับ

• When it comes to (idiom): เมื่อพูดถึงหรือพิจารณา

• Be immersed in (phrase): มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง

• Instrumental music (phrase): ดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้อง โดยใช้เฉพาะเครื่องดนตรี

3. What is the impact of technology on music? (เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อดนตรีอย่างไร)

Nowadays, technology undeniably plays a crucial role in music, in terms of improved production and accessibility. To begin with, it has facilitated the process of making music with a variety of technological advances, from the instruments right to the recording phase, which makes the final outcome more exotic and also saves a lot of time for producers.

Besides, gone are the days when one had to rush to a music shop to purchase his favorite songs. It has never been easier for consumers to access music since there are currently a lot of online platforms that allow users to buy music at a click of a button. 

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ในดนตรี ทั้งในแง่ของการพัฒนาในกระบวนการผลิตและการเข้าถึงเพลงได้ง่ายขึ้น

เริ่มจากการผลิตเพลง เทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการสร้างเพลง ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตั้งแต่เครื่องดนตรีไปจนถึงขั้นตอนการบันทึกเสียง สิ่งนี้ทำให้ผลงานสุดท้ายมีความพิเศษและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาที่ผู้ผลิตเพลงต้องใช้ลงอย่างมาก

อีกทั้งยุคที่คนต้องรีบไปซื้อแผ่นเพลงที่ร้านค้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทุกวันนี้ การเข้าถึงเพลงไม่เคยง่ายเท่านี้มาก่อน ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ที่หลากหลายซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อเพลงได้เพียงแค่คลิกเดียว

คำศัพท์ที่ใช้:

• Accessibility (noun): ความสามารถในการเข้าถึง

• Facilitate (verb): ทำให้สะดวกขึ้น

• Exotic (adjective): ไม่ธรรมดา แปลกใหม่

• Gone are the days (idiom): ยุคสมัยนั้นผ่านไปแล้ว

• At a click of a button (idiom): ง่ายและรวดเร็วเพียงแค่คลิกเดียว

4. Which music is better, traditional music or modern music? ( เพลงแบบใดดีกว่า: ดนตรีพื้นบ้านหรือดนตรีสมัยใหม่)

Well, from my perspective, despite the ubiquity of modern music, more emphasis should be placed on traditional music. Contemporary songs are admittedly memorable with catchy melodies and viral lyrics, yet they are usually produced for only commercial purposes. In the meantime, folk music often expresses the culture, customs, and history of a country.

Listening to this kind of music will provide us with a comprehensive understanding of our country’s cultural and historical values, thus helping us nurture our pride in our country and raise awareness about preserving these national treasures. 

จากมุมมองของฉัน แม้ว่าดนตรีสมัยใหม่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่เราควรให้ความสำคัญกับดนตรีพื้นบ้านมากกว่า

เพลงร่วมสมัยนั้นน่าจดจำด้วยทำนองที่ติดหูและเนื้อเพลงที่ไวรัล แต่ส่วนใหญ่มักผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ในขณะที่ดนตรีพื้นบ้านมักสะท้อนถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประวัติศาสตร์ของแต่ละประเทศ

การฟังเพลงพื้นบ้านช่วยให้เราเข้าใจคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังความภาคภูมิใจในชาติและเพิ่มความตระหนักในการอนุรักษ์สมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมเหล่านี้

คำศัพท์ที่ใช้:

• Ubiquity (noun): ความแพร่หลาย

• Place emphasis on (phrase): ให้ความสำคัญ

• Folk music (phrase): ดนตรีพื้นบ้าน

• Comprehensive (adjective): ครอบคลุม

• National treasure (phrase): สมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของชาติ

5. Do you think foreign music have got any impact on the cultural or traditional music? (คุณคิดว่าดนตรีต่างประเทศมีผลกระทบต่อดนตรีวัฒนธรรมหรือดนตรีดั้งเดิมหรือไม่)

Yes, I personally do think so. To some extent, international music has exerted a fairly negative influence on traditional music. Specifically, global hits, which often have upbeat music and viral elements, are ubiquitous and dominate almost all current music charts. This has led to the saddening situation that very few individuals care about the existence of folk music, thus becoming less aware of the beautiful cultural features and historical values of their own country.  

ใช่ค่ะ ส่วนตัวฉันคิดว่าดนตรีต่างประเทศมีอิทธิพลต่อดนตรีพื้นบ้านหรือดนตรีประจำชาติอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในแง่ลบในระดับหนึ่ง

ดนตรีระดับโลกที่มักมีจังหวะสนุกสนานและองค์ประกอบที่ไวรัลนั้นมีความแพร่หลายอย่างมาก และครองชาร์ตเพลงเกือบทั้งหมดในปัจจุบัน สิ่งนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่น่าเศร้า คือมีเพียงคนส่วนน้อยที่ใส่ใจถึงการมีอยู่ของดนตรีพื้นบ้าน ส่งผลให้ตระหนักถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศตัวเองน้อยลง

คำศัพท์ที่ใช้:

• To some extent (phrase): ในระดับหนึ่ง

• Exert an influence on (phrase): มีผลกระทบหรืออิทธิพลต่อ

• Upbeat music (phrase): ดนตรีที่มีจังหวะเร็ว สนุกสนาน

• Viral elements (phrase): องค์ประกอบที่มีแนวโน้มจะแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง

• Ubiquitous (adjective): ที่มีอยู่ทั่วไป

• Saddening (adjective): ที่ทำให้รู้สึกเศร้าหรือเสียใจ

บทความนี้ได้แนะนำตัวอย่างคำตอบสำหรับหัวข้อ IELTS Speaking Part 2 และ 3: Describe a song you like PREP ขอให้คุณเตรียมตัวอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการสอบที่กำลังจะมาถึง พร้อมได้คะแนนสูงสุด!

PREP – แพลตฟอร์มเรียน & ฝึกสอบที่ใช้ AI พิเศษ ช่วยให้คุณฝึก IELTS Speaking ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกเสียงอย่างละเอียดเหมือนครู พร้อมทั้งกระตุ้นให้คุณพัฒนาโดยการยอมรับจุดแข็งของคุณ เมื่อเรียนออนไลน์ที่บ้าน คุณจะไม่แค่พูดถูก แต่ยังพูดได้ดีขึ้น และพัฒนาบทพูดของคุณไปสู่คะแนนสูงในขณะที่ยังคงรักษาความคิดเดิม 100%
ดาวน์โหลดแอป PREP วันนี้เพื่อเริ่มเรียน IELTS ที่บ้านด้วยโปรแกรมฝึกสอบออนไลน์คุณภาพสูง
สมัครเรียนทันทีที่นี่ หรือโทรสอบถามที่ HOTLINE +6624606789 เพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับเส้นทางการเรียน IELTS Speaking