Out of Time แปลเพลง ถ่ายทอดอารมณ์เศร้าลึกแบบจับใจ
คุณเคยรู้สึกเสียใจที่ตระหนักว่าหมดเวลาแล้วสำหรับความสัมพันธ์ที่เคยมีหรือไม่? Out of Time ของ The Weeknd เป็นหนึ่งในบทเพลงที่สื่อถึงความเสียใจ การตระหนักรู้ที่มาช้าเกินไป และความพยายามที่จะแก้ไขสิ่งที่เสียหายไปแล้วได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยทำนองสไตล์ City Pop ที่ชวนให้หลับตาและฝันไปกับยุค 80s ผสมผสานกับเนื้อร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นจากอัลบั้ม Dawn FM การทำความเข้าใจ out of time แปลเพลง จะช่วยให้คุณซาบซึ้งกับความงามของภาษาอังกฤษและเรียนรู้วิธีการสื่อสารอารมณ์ความเสียใจและการตระหนักรู้ที่มาช้าเกินไปผ่านดนตรี
บทความนี้จะพาคุณสำรวจความหมายลึกซึ้งของ out of time lyrics วิเคราะห์บริบทของเพลงในอัลบั้ม Dawn FM พร้อมทั้งเรียนรู้คำศัพท์และสำนวนที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
เพลง out of time ไม่ได้เป็นเพลงอกหักธรรมดา แต่เป็นบทเพลงที่สื่อถึงการตระหนักรู้ที่มาช้าเกินไปและความพยายามที่จะกอบกู้สิ่งที่เสียไปแล้ว การศึกษา out of time แปล จะช่วยให้คุณเข้าใจบริบทของความเสียใจและการยอมรับในความจริงที่เจ็บปวด ซึ่งเป็นธีมที่หลายคนสามารถเชื่อมโยงได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษมาตรฐาน เช่น IELTS หรือ TOEIC ที่ต้องการความเข้าใจในการใช้ภาษาเชิงอารมณ์
นอกจากการวิเคราะห์เนื้อหาแล้ว บทความนี้ยังจะนำเสนอคำศัพท์สำคัญพร้อมตัวอย่างประโยค ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของอัลบั้ม และตอบคำถามที่พบบ่อย คุณจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ภาษาเพื่อสื่อความรู้สึกที่ซับซ้อนและเข้าใจเหตุผลที่เพลงนี้ยังคงสัมผัสหัวใจผู้ฟัง มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบทเพลงแห่งความเสียใจนี้กันเลย
I. แปลเพลง Out of Time พร้อมคำอธิบาย
The last few months, I've been working on me, baby
(ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฉันพยายามเยียวยาตัวเองอยู่เลย ที่รัก)
There's so much trauma in my life
(ชีวิตฉันเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย)
I've been so cold to the ones who loved me, baby
(ฉันเคยเย็นชาต่อคนที่รักฉันมาก่อน)
I look back now and I realize
(พอมองย้อนกลับไป ฉันก็เพิ่งรู้ตัว)
I remember when I held you
(ฉันจำตอนที่กอดเธอไว้ได้)
You begged me with your drowning eyes to stay
(ดวงตาของเธอที่กำลังจมน้ำตา ขอให้ฉันอย่าไป)
And I regret I didn't tell you
(และฉันเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้พูดออกไป)
Now I can't keep you from loving him, you made up your mind
(ตอนนี้ฉันรั้งเธอจากเขาไม่ได้แล้ว เธอตัดสินใจไปแล้ว)
Say I love you, girl, but I'm out of time
(อยากบอกว่าฉันรักเธอ… แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว)
Say I'm there for you, but I'm out of time
(อยากบอกว่าจะอยู่ข้างเธอ… แต่ฉันหมดเวลาแล้ว)
Say that I'll care for you, but I'm out of time
(อยากบอกว่าจะดูแลเธอ… แต่ตอนนี้พูดไปก็สายเกินไป)
Said, I'm too late to make you mine, out of time
(ฉันมาช้าเกินไปที่จะทำให้เธอกลับมาเป็นของฉันอีก)
If he mess up just a little, baby, you know my line
(ถ้าเขาทำพลาดไปนิดเดียว เธอก็รู้เบอร์ฉันนะ)
If you don't trust him a little, then come right back, girl, come right back
(ถ้าเธอไม่มั่นใจเขา ก็กลับมาหาฉันได้เลย กลับมาได้เสมอ)
Gimme one chance, just a little, baby, I'll treat you right
(ให้ฉันสักโอกาสเดียว ขออีกครั้ง ฉันจะทำให้เธอดีกว่าเดิม)
And I'll love you like I should've loved you all the time
(ฉันจะรักเธอแบบที่ควรทำตั้งแต่แรก)
And I remember when I held you
(ฉันจำตอนกอดเธอไว้แน่นได้ดี)
You begged me with your drowning eyes to stay
(ตาเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ขอให้ฉันไม่เดินจากไป)
And I regret I didn't tell you
(และฉันเสียใจที่ไม่ได้พูดในสิ่งที่ควรพูด)
Now I can't keep you from loving him, you made up your mind
(ตอนนี้ฉันรั้งเธอไม่ได้ เธอเลือกเขาไปแล้ว)
Say I love you, girl, but I'm out of time
(อยากบอกว่ารักเธอ แต่ฉันมาช้าเกินไป)
Say I'm there for you, but I'm out of time
(อยากบอกว่าจะอยู่ด้วย แต่ก็สายไปแล้ว)
Say that I'll care for you, but I'm out of time
(อยากบอกว่าจะดูแลเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว)
Said, I'm too late to make you mine, out of time
(ฉันมาช้าเกินกว่าจะทำให้เธอกลับมา)
Ooh-ooh-ooh, singing (out of time)
(เสียงร้องที่ลอยอยู่ เหมือนกำลังบอกว่าฉันหมดเวลาแล้ว)
Said, I had you to myself, but I'm (out of time)
(ครั้งหนึ่งฉันเคยมีเธอ แต่ตอนนี้… ฉันหมดสิทธิ์แล้ว)
Say that I'll care for you, but I'm out of time
(ฉันก็อยากดูแลเธอ แต่มันสายไปแล้ว)
But I'm too late to make you mine, out of time
(ฉันมาช้าเกินไป หมดเวลาแล้ว)
Out of time, out of time
(หมดเวลาแล้ว… หมดจริง ๆ)
Don't you dare touch that dial
(อย่าเพิ่งปิดสายนั้น)
Because like the song says, you are out of time
(เพราะเหมือนในเพลง เธอหมดเวลาแล้ว)
You're almost there, but don't panic
(เธอกำลังจะถึงที่หมายแล้ว แต่อย่าตกใจ)
There's still more music to come before you're completely engulfed
In the blissful embrace of that little light you see in the distance
(ยังมีเสียงดนตรีอีกหน่อย ก่อนที่เธอจะลอยไปสู่แสงสบาย ๆ ไกลลิบที่เห็นอยู่ตอนนี้)
Soon you'll be healed, forgiven, and refreshed, free from all trauma, pain, guilt, and shame
(อีกไม่นานเธอจะหายดี ถูกให้อภัย สดชื่นใหม่
ปลอดจากบาดแผล ความเจ็บ ความผิด และความอายทั้งหมด)
You may even forget your own name, but before you dwell in that house forever
(เธออาจลืมแม้แต่ชื่อของตัวเอง แต่ก่อนที่เธอจะไปถึงที่นั่นตลอดกาล)
Here's 30 minutes of easy listening to some slow tracks, on 103.5 Dawn FM
(นี่คือสามสิบนาทีของเพลงช้าเบา ๆ บนคลื่น 103.5 Dawn FM)
II. Out of Time ในจักรวาลคอนเซ็ปต์อัลบั้ม "Dawn FM"
อัลบั้ม Dawn FM ของ The Weeknd เป็นอัลบั้มคอนเซ็ปต์ที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกันตลอดทั้งอัลบั้ม โดยมีแนวคิดเป็นการเดินทางผ่านช่วงเวลาระหว่างชีวิตและความตาย ผ่านสถานีวิทยุ Dawn FM ที่มี Jim Carrey เป็น DJ นำทาง การทำความเข้าใจ out of time แปลเพลง ในบริบทของอัลบั้มจะช่วยให้เห็นถึงความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
|
องค์ประกอบอัลบั้ม |
รายละเอียด |
|
ชื่ออัลบั้ม |
Dawn FM |
|
คอนเซ็ปต์ |
การเดินทางผ่านช่วงเวลาหลังชีวิต |
|
ผู้บรรยาย |
Jim Carrey (DJ) |
|
ธีมหลัก |
การไตร่ตรอง การยอมรับ การหลุดพ้น |
ตำแหน่งของเพลงในอัลบั้มและเส้นเรื่องสู่การหลุดพ้น
Out of Time ตั้งอยู่ในช่วงกลางของอัลบั้ม ซึ่งเป็นจุดที่ตัวละครหลักกำลังไตร่ตรองและเผชิญหน้ากับความผิดพลาดในอดีต เพลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทางอารมณ์ที่นำไปสู่การยอมรับและการหลุดพ้นในท่อนท้ายของอัลบั้ม การวางตำแหน่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเผชิญหน้ากับความเสียใจก่อนที่จะสามารถก้าวต่อไปได้
|
ลำดับในอัลบั้ม |
บทบาทในเรื่องราว |
|
ก่อน Out of Time |
การตื่นตัวและความสับสน |
|
Out of Time |
การเผชิญหน้ากับความเสียใจ |
|
หลัง Out of Time |
การยอมรับและการหลุดพ้น |
เพลงใช้ทำนอง City Pop ที่มีความคิดถึงและโหยหา ซึ่งตรงกันข้ามกับเนื้อหาที่เจ็บปวด สร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าสนใจ ความขัดแย้งนี้สะท้อนถึงความรู้สึกภายในของตัวละครที่ยังคงหวงแหนความทรงจำดีๆ แต่ก็ต้องเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย
การที่ Jim Carrey ปรากฏในช่วงท้ายของเพลงในฐานะ DJ ของสถานีวิทยุช่วยเชื่อมโยงเพลงนี้เข้ากับคอนเซ็ปต์ใหญ่ของอัลบั้ม เขาทำหน้าที่เป็นผู้นำทางที่ช่วยให้ตัวละครผ่านพ้นความเจ็บปวดและเดินหน้าต่อไป ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางทั้งหมด
บทความที่แนะนำ:
แปลเพลง The Other Side of Paradise ถอดความรู้สึกดิบ เท่ ลึกซึ้ง
เนื้อเพลง Here's Your Perfect แปลไทย
แปลเพลง Adventure of a Lifetime พร้อมความหมาย
III. ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเพลง Out of Time
เพื่อให้คุณเข้าใจ out of time แปลเพลง มากยิ่งขึ้น ต่อไปนี้เป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ผู้คนมักสงสัยเกี่ยวกับเพลงนี้
1. ดนตรีแนว "City Pop" ที่ถูกใช้ในเพลงนี้คืออะไร?
City Pop เป็นแนวเพลงที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นช่วงปลายทศวรรษ 1970s ถึงกลางทศวรรษ 1980s มีลักษณะเด่นคือการผสมผสานระหว่าง funk, disco, jazz และ soft rock ด้วยการผลิตที่ทันสมัยในยุคนั้น City Pop มีทำนองที่ไพเราะ จังหวะที่สนุกสนาน และบรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงชีวิตในเมืองใหญ่ยามค่ำคืน
|
ลักษณะของ City Pop |
รายละเอียด |
|
ยุคสมัย |
ปลาย 1970s - กลาง 1980s |
|
ที่มา |
ญี่ปุ่น |
|
อิทธิพล |
Funk, Disco, Jazz, Soft Rock |
|
บรรยากาศ |
Nostalgic, Urban, Sophisticated |
The Weeknd เลือกใช้สไตล์ City Pop ในเพลง Out of Time เพื่อสร้างความรู้สึกของความคิดถึงและความโหยหาอดีต ซึ่งเข้ากับเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงความเสียใจและการพลาดโอกาส ทำนองที่นุ่มนวลและชวนฝันตัดกันกับเนื้อหาที่เจ็บปวด สร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
2. นอกจาก Out of Time แล้ว มีเพลงไหนของ The Weeknd ที่สื่อถึงความเสียใจในความรักอีกบ้าง?
The Weeknd มีเพลงหลายเพลงที่สื่อถึงความเสียใจและความผิดพลาดในความรัก รวมถึง:
-
Call Out My Name - เพลงที่พูดถึงความเจ็บปวดจากการถูกใช้และทิ้ง
-
Save Your Tears - เพลงที่สื่อถึงความเสียใจที่ทำให้คนที่รักเจ็บปวด
-
After Hours - เพลงที่แสดงถึงความสับสนและความเสียใจในความสัมพันธ์
เพลงเหล่านี้มีจุดร่วมกันคือการใช้ทำนองที่ไพเราะผสมกับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และการถ่ายทอดความรู้สึกที่ซับซ้อนของความรักและความสูญเสีย
3. ความเศร้าในเพลง Out of Time แตกต่างจากเพลง Save Your Tears อย่างไร?
แม้ทั้งสองเพลงจะพูดถึงความเสียใจ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ:
|
องค์ประกอบ |
Out of Time |
Save Your Tears |
|
ธีมหลัก |
การตระหนักรู้ที่มาช้าเกินไป |
การขอโทษและความหวังว่าจะได้กลับมา |
|
อารมณ์ |
ยอมรับและเศร้าสลด |
เสียใจแต่ยังมีความหวัง |
|
ทำนอง |
City Pop ที่นุ่มนวล |
Synth-pop ที่สนุกสนานแต่เศร้า |
|
มุมมอง |
รู้ว่าสายเกินไป |
พยายามแก้ไข |
Out of Time มีความเศร้าที่ลึกและยอมรับมากกว่า เพราะตัวละครรู้ว่าไม่มีทางกลับแล้ว ในขณะที่ Save Your Tears ยังคงมีความหวังและการพยายามที่จะกลับไปแก้ไข ทำให้ Out of Time รู้สึกเศร้าและหนักใจกว่า
4. เสียงของ Jim Carrey ในตอนท้ายเพลง มีความจำเป็นต่อเนื้อเรื่องของอัลบั้มหรือไม่?
ใช่ เสียงของ Jim Carrey ในตอนท้ายเพลงมีความสำคัญมากต่อคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม Dawn FM เขาทำหน้าที่เป็น DJ ของสถานีวิทยุที่นำทางผู้ฟังผ่านการเดินทางทางอารมณ์และจิตวิญญาณ การปรากฏของเขาในตอนท้าย Out of Time ช่วยเชื่อมโยงเพลงนี้เข้ากับเรื่องราวใหญ่ของอัลบั้ม และเตรียมผู้ฟังสำหรับเพลงถัดไป
|
บทบาทของ Jim Carrey |
ความหมาย |
|
DJ/ผู้นำทาง |
นำทางผ่านการเดินทางทางอารมณ์ |
|
เสียงบรรยาย |
เชื่อมโยงเพลงต่างๆ ในอัลบั้ม |
|
สัญลักษณ์ |
ตัวแทนของการหลุดพ้นและการยอมรับ |
การมีเสียงของ Jim Carrey ทำให้อัลบั้มรู้สึกเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์และมีความต่อเนื่อง มากกว่าแค่ชุดของเพลงที่แยกกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอนเซ็ปต์ที่ The Weeknd ต้องการสื่อ
IV. บทสรุป
Out of Time เป็นเพลงที่สื่อถึงความเสียใจ การตระหนักรู้ที่มาช้าเกินไป และการยอมรับในความจริงที่เจ็บปวด การทำความเข้าใจ out of time แปลเพลง จะช่วยให้คุณซาบซึ้งกับความงามของภาษาอังกฤษและเรียนรู้วิธีการสื่อสารอารมณ์ที่ซับซ้อนผ่านดนตรี เพลงนี้ใช้ทำนอง City Pop ที่นุ่มนวลและชวนให้คิดถึงผสมกับเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สร้างความรู้สึกที่ซับซ้อนและน่าจดจำ ความสำเร็จของเพลงมาจากการผสมผสานระหว่างดนตรีที่ไพเราะ เนื้อหาที่มีความหมาย และบริบทที่ลึกซึ้งในอัลบั้ม Dawn FM ทำให้เพลงนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของ The Weeknd การวิเคราะห์และทำความเข้าใจเพลงภาษาอังกฤษเช่นนี้เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาทักษะภาษาและความเข้าใจในการสื่อสารอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษมาตรฐานต่างๆ รวมถึงการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน
หากคุณต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณให้แข็งแกร่งขึ้น PREP English มีทบทวนสอบ IELTS ออนไลน์ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ AI ที่ทันสมัย เช่น Teacher Bee AI ที่คอยให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล Virtual Speaking Room ที่ช่วยฝึกทักษะการพูดในสถานการณ์จริง และ Virtual Writing Room ที่ให้ข้อเสนอแนะโดยละเอียดเพื่อพัฒนาการเขียน คุณจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครบถ้วนและตรงจุด หลักสูตรของ PREP ครอบคลุมทุกทักษะที่จำเป็นสำหรับการสอบ IELTS ตั้งแต่ Listening Reading Writing และ Speaking พร้อมเนื้อหาที่อัพเดตตามมาตรฐานสากล เริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จในการสอบ IELTS ไปกับ PREP วันนี้

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
เนื้อหาแบบพรีเมียม
ดูทั้งหมดแผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล
อ่านมากที่สุด
ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล
















