แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษ เลือกแบบไหนให้เก่งจริง?

คุณเคยรู้สึกกังวลทุกครั้งที่ต้องพูดภาษาอังกฤษหรือไม่? แม้จะเรียนมานานหลายปี แต่เมื่อถึงเวลาต้องเปิดปากพูด กลับรู้สึกไม่มั่นใจ กลัวออกเสียงผิด กลัวใช้ไวยากรณ์ผิด หรือไม่รู้จะเริ่มประโยคอย่างไร ปัญหานี้ไม่ใช่แค่คุณคนเดียว แต่เป็นความท้าทายของคนไทยหลายล้านคนที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ

การฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองผ่านแอพฝึกพูดภาษาอังกฤษกลายเป็นทางออกที่หลายคนหันมาใช้ เพราะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทั้งเรื่องความสะดวก ความยืดหยุ่น และที่สำคัญคือสร้างความมั่นใจในการพูดโดยไม่ต้องกลัวการตัดสิน

ในยุคดิจิทัลนี้ มีแอปเรียนภาษาอังกฤษฟรีและแบบเสียเงินให้เลือกมากมาย แต่ละตัวมีจุดเด่นแตกต่างกัน บางแอพเน้นการแก้ไขการออกเสียงด้วยเทคโนโลยี AI ที่ทันสมัย บางตัวเน้นการสร้างบทสนทนาจำลองในชีวิตจริง ส่วนบางแอพเชื่อมต่อคุณกับเจ้าของภาษาเพื่อแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ ความหลากหลายนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า แอพไหนเหมาะกับคุณที่สุด?

การเลือก app สอน ภาษาที่ดีต้องพิจารณาหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระดับภาษาของคุณ เป้าหมายการใช้งาน งบประมาณ และเวลาที่มี บางคนต้องการเตรียมสอบ IELTS หรือ TOEIC บางคนต้องการพูดเพื่อการทำงาน หรือบางคนแค่ต้องการสนทนาในชีวิตประจำวันได้คล่องขึ้น แต่ละเป้าหมายต้องการเครื่องมือและวิธีการที่แตกต่างกัน

ที่สำคัญไม่แพ้กัน การมีแอพที่ดีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องรู้วิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจเทคนิคการใช้งาน และสร้างวินัยในการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพราะความสำเร็จในการพัฒนาทักษะการพูดมาจากการผสมผสานระหว่างเครื่องมือที่ดีและวิธีการที่ถูกต้อง

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ 5 เกณฑ์สำคัญในการเลือกแอพที่ตอบโจทย์ รีวิวแอพยอดนิยม 5 อันดับแรกทั้งในไทยและทั่วโลก รวมถึงเทคนิคการใช้งานให้ได้ผลสูงสุด คุณจะได้พบกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลจี AI ระบบให้คะแนนอัตโนมัติ และฟีเจอร์ที่ช่วยให้การฝึกพูดของคุณพัฒนาอย่างรวดเร็ว

มาเริ่มต้นค้นหาแอพที่เหมาะกับคุณและปลดล็อกศักยภาพการพูดภาษาอังกฤษของคุณไปด้วยกัน

  1. I. ทำไมต้องฝึกพูดผ่านแอพ?
  2. II. ปัญหาการเลือกแอพ: มีเยอะแต่ไม่รู้ว่าอันไหน "ใช่"
  3. III. จัดกลุ่มแอพตามระดับและเป้าหมาย
    1. 1. ELSA Speak - ผู้นำด้านการแก้ไขการออกเสียง
    2. 2. Duolingo - ฟรีและสนุกสำหรับผู้เริ่มต้น
    3. 3. HelloTalk - เชื่อมต่อเจ้าของภาษาจริง
    4. 4. Cambly - พูดคุยกับครูเจ้าของภาษาแบบ 1:1
    5. 5. PrepTalk (PREP) - แอพครบวงจรด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง
  4. IV. เทคนิคการใช้แอพให้ได้ผลสูงสุด
    1. 1. สร้างวินัยและความสม่ำเสมอ
    2. 2. เทคนิค Shadowing
    3. 3. บันทึกเสียงตัวเองและเปรียบเทียบเพื่อหาจุดบกพร่อง
    4. 4. อย่ากลัวที่จะผิดพลาด
  5. V. คำถามที่พบบ่อยและข้อควรรู้
    1. 1. แอพฟรีเพียงพอต่อการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองให้เก่งได้จริงหรือไม่?
    2. 2. ฟีดแบคด้วย AI ในแอพฝึกพูดคืออะไร และทำงานอย่างไร?
    3. 3. แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษมีกี่ประเภทหลักๆ?
    4. 4. การฝึกพูดภาษาอังกฤษกับแอพแตกต่างจากการคุยกับเจ้าของภาษาจริงอย่างไร?
แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษ ที่ควรมีติดเครื่อง
แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษ ที่ควรมีติดเครื่อง

I. ทำไมต้องฝึกพูดผ่านแอพ?

การฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองผ่านแอพพลิเคชั่นกลายเป็นทางเลือกยอดนิยม เพราะช่วยแก้ปัญหาหลักของการฝึกพูด นั่นคือความกลัวและความไม่สะดวก

ข้อดีที่ชัดเจน:

  • สร้างสภาพแวดล้อมปลอดภัย ทำผิดได้โดยไม่เสียหน้า

  • ฝึกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

  • สร้างนิสัยพูดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับคอร์สเรียนทั่วไป

II. ปัญหาการเลือกแอพ: มีเยอะแต่ไม่รู้ว่าอันไหน "ใช่"

ปัญหาที่พบบ่อย

ผลกระทบ

มีแอพให้เลือกนับร้อยตัว

สับสน ไม่รู้จะเริ่มจากไหน

แอพหลายตัวเน้นแค่คำศัพท์-ไวยากรณ์

ขาดการฝึกพูดจริงจัง

ฟีเจอร์ไม่เหมาะกับระดับผู้เรียน

เสียเวลาและความมั่นใจ

การเลือกแอพที่ผิดอาจทำให้คุณเสียเวลาและสูญเสียแรงจูงใจในการเรียนรู้

III. จัดกลุ่มแอพตามระดับและเป้าหมาย

แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษ ที่ควรมีติดเครื่อง
แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษตามระดับและเป้าหมาย

1. ELSA Speak - ผู้นำด้านการแก้ไขการออกเสียง

ภาพรวม: ELSA Speak เป็นแอพฝึกพูดภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะด้านการแก้ไขการออกเสียง ใช้เทคโนโลยี AI ที่ผ่านการฝึกฝนด้วยข้อมูลเสียงหลายล้านตัวอย่าง

คุณสมบัติ

รายละเอียด

จุดเด่น

• AI แม่นยำสูงในการจับเสียง

• วิเคราะห์การออกเสียงแบบละเอียด

• แสดงคะแนนการออกเสียงแต่ละคำ

• มีแผนเรียนเฉพาะบุคคล

ข้อจำกัด

• เน้นการออกเสียงมากกว่าบทสนทนา

• ฟีเจอร์ฟรีจำกัด

• ราคาค่อนข้างสูงสำหรับแผนรายปี

ราคา

ฟรี (จำกัด) 

Pro: ต้องจ่ายค่า

เหมาะกับ

ผู้ที่มีปัญหาการออกเสียง, ผู้เริ่มต้น-ระดับกลาง

ทำไมถึงนิยม:

  • มีสำเนียงอเมริกันที่ชัดเจน เหมาะกับคนไทย

  • ระบบให้คะแนนทำให้เห็นความก้าวหน้าชัดเจน

  • มีบทเรียนสั้นๆ ฝึกได้ทุกที่ทุกเวลา

2. Duolingo - ฟรีและสนุกสำหรับผู้เริ่มต้น

ภาพรวม: Duolingo เป็นแอปเรียนภาษาอังกฤษฟรีที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก มีระบบเกมที่สนุกและเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป

คุณสมบัติ

รายละเอียด

จุดเด่น

• ใช้ฟรีได้เกือบทุกฟีเจอร์

• ระบบเกมสนุก มีแรงจูงใจ

• เรียนได้หลายทักษะพร้อมกัน

• มี Streak ที่ช่วยสร้างวินัย

ข้อจำกัด

• ฟีเจอร์ฝึกพูดจำกัด

• โฆษณาค่อนข้างเยอะ

• ไม่เจาะลึกการพูดระดับสูง

ราคา

ฟรี 

Super Duolingo: ต้องจ่ายค่า

เหมาะกับ

ผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างพื้นฐาน

ทำไมถึงนิยม:

  • ใช้ฟรีและเข้าถึงได้ง่าย

  • เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ

  • ระบบแจ้งเตือนช่วยสร้างความสม่ำเสมอ

3. HelloTalk - เชื่อมต่อเจ้าของภาษาจริง

ภาพรวม: HelloTalk เป็นแอพแลกเปลี่ยนภาษาที่ช่วยให้คุณพูดคุยกับเจ้าของภาษาจริงทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบสนทนาจริง

คุณสมบัติ

รายละเอียด

จุดเด่น

• พูดคุยกับเจ้าของภาษาจริง

• เรียนรู้วัฒนธรรมและสำนวน

• มีฟีเจอร์แปลและแก้ไขประโยค

• ฝึกได้ทั้งพูดและเขียน

ข้อจำกัด

• ต้องรอคนตอบกลับ

• คุณภาพขึ้นกับคู่สนทนา

• ไม่มีระบบให้คะแนนอัตโนมัติ

ราคา

ฟรี

VIP: ต้องจ่ายค่า

เหมาะกับ

ระดับกลาง-สูง ที่มีพื้นฐานแล้ว

ทำไมถึงนิยม:

  • ได้ฝึกกับคนจริง เรียนรู้การใช้ภาษาแบบเป็นธรรมชาติ

  • สร้างเพื่อนต่างชาติได้

  • ฟรีและมีชุมชนใหญ่

4. Cambly - พูดคุยกับครูเจ้าของภาษาแบบ 1:1

ภาพรวม: Cambly เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อคุณกับครูเจ้าของภาษาจากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ สามารถเริ่มบทเรียนได้ทันทีโดยไม่ต้องนัดล่วงหน้า

คุณสมบัติ

รายละเอียด

จุดเด่น

• ครูเจ้าของภาษา 100%

• เรียนได้ทันที ไม่ต้องนัดล่วงหน้า

• บันทึกบทเรียนทบทวนได้

• เลือกครูตามความสนใจ

ข้อจำกัด

• ราคาค่อนข้างสูง

• ต้องมีพื้นฐานการสื่อสาร

• ไม่มีหลักสูตรที่เป็นระบบ

ราคา

เริ่มต้น 1,500-5,000 บาทต่อเดือน

เหมาะกับ

ระดับกลาง-สูง ที่ต้องการฝึกสนทนา

ทำไมถึงนิยม:

  • ได้พูดกับครูจริง ได้ฟีดแบคทันที

  • ยืดหยุ่น เรียนได้ตามเวลาที่สะดวก

  • เหมาะกับคนที่ต้องการพัฒนาการสนทนา

5. PrepTalk (PREP) - แอพครบวงจรด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง

ภาพรวม: PrepTalk จาก PREP Education เป็นแอพฝึกพูดภาษาอังกฤษที่พัฒนาโดยเฉพาะสำหรับการเตรียมสอบ IELTS และ TOEIC ใช้เทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยที่สุดในตลาดไทย

แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษ ที่ควรมีติดเครื่อง
 PrepTalk (PREP) 

คุณสมบัติ

รายละเอียด

จุดเด่น

Teacher Bee AI - ผู้ช่วยสอนอัจฉริยะ

Virtual Speaking Room - ห้องฝึกพูดเสมือนจริง

AI Scoring ละเอียด - วิเคราะห์ 4 เกณฑ์

• หลักสูตรครบวงจร Foundation-Advanced

• เนื้อหาอัปเดตตามสอบจริง

ข้อจำกัด

• ต้องสมัครสมาชิก

• เน้นการสอบมากกว่าสนทนาทั่วไป

ราคา

ต้องจ่ายค่าตามแพ็กเกจ

เหมาะกับ

ทุกระดับ โดยเฉพาะผู้เตรียมสอบ IELTS/TOEIC

ฟีเจอร์พิเศษที่ทำให้ PrepTalk โดดเด่น:

1. Teacher Bee AI - ครูส่วนตัวที่ฉลาดที่สุด

  • วิเคราะห์จุดอ่อนและปรับแผนการเรียนอัตโนมัติ

  • ให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคลตลอดการเรียน

  • ตอบคำถามและแก้ไขข้อสงสัยได้ทันที

  • เข้าใจบริบทของการสนทนา ไม่ใช่แค่ให้คะแนน

2. Virtual Speaking Room (VSR) - ห้องฝึกที่เหนือกว่า

  • จำลองสถานการณ์สอบ IELTS/TOEIC แบบเรียลไทม์

  • AI สนทนาโต้ตอบตามบริบท ไม่ใช่แค่สคริปต์ตายตัว

  • ให้คะแนนตามเกณฑ์มาตรฐานสากล

  • บันทึกการสนทนาทบทวนได้ไม่จำกัด

3. ระบบวิเคราะห์แบบมืออาชีพ

เกณฑ์การประเมิน

สิ่งที่วิเคราะห์

Fluency

ความคล่อง, การหยุดพูด, ความเร็ว

Pronunciation

การออกเสียง, สำเนียง, การเน้นเสียง

Grammar

ไวยากรณ์, โครงสร้างประโยค

Vocabulary

คำศัพท์, สำนวน, ความเหมาะสม

4. เนื้อหาที่ครอบคลุมและเป็นระบบ

  • หลักสูตรแบ่งตามระดับชัดเจน

  • อัปเดตหัวข้อตามข้อสอบจริงล่าสุด

  • ครอบคลุมทุกหัวข้อที่ออกสอบบ่อย

  • มีแบบฝึกหัดและ mock test ให้ฝึกประจำ

ทำไม PrepTalk ถึงเป็นอันดับ 1 ในไทย:

  • พัฒนาโดยทีม PREP ที่มีประสบการณ์สอน IELTS/TOEIC มากกว่า 10 ปี

  • ใช้เทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด

  • ผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว - นักเรียนหลายพันคนผ่านเป้าหมายคะแนน

  • ระบบติดตามความก้าวหน้าละเอียด เห็นผลชัดเจน

เหมาะกับใครบ้าง:

  • ผู้ที่เตรียมสอบ IELTS ต้องการคะแนน 6.0-8.0

  • ผู้ที่เตรียมสอบ TOEIC เป้าหมาย 600-900

  • คนทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการประชุมและนำเสนอ

  • นักเรียน นักศึกษาที่ต้องการพัฒนาทักษะการพูดอย่างจริงจัง

IV. เทคนิคการใช้แอพให้ได้ผลสูงสุด

1. สร้างวินัยและความสม่ำเสมอ

หลักการสำคัญ:

ระยะเวลา

ผลลัพธ์

10-15 นาที/วัน (สม่ำเสมอ)

ดีกว่าฝึก 2 ชั่วโมงแต่ไม่สม่ำเสมอ

1-2 เดือนแรก

สมองเริ่มคุ้นเคยกับภาษา

3-6 เดือน

พูดได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น

เป้าหมายที่ชัดเจน:

  • ฝึกพูด 5 ประโยคใหม่ทุกวัน

  • ฝึกบทสนทนาสั้นๆ 1 บทต่อวัน

  • ทบทวนสิ่งที่เรียนทุกสัปดาห์

2. เทคนิค Shadowing

วิธีฝึก Shadowing:

  1. ฟังประโยคสั้นๆ - เริ่มจากประโยค 5-7 คำ

  2. พูดตามทันที - พยายามพูดพร้อมกับเสียง

  3. เลียนแบบทุกอย่าง - เสียง, น้ำเสียง, จังหวะ, ความเร็ว

  4. เพิ่มความยาก - ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและความยาวประโยค

ประโยชน์:

  • ฝึกฟังและพูดพร้อมกัน

  • ปากคุ้นเคยกับการออกเสียงถูกต้อง

  • เข้าใจจังหวะและน้ำเสียงตามธรรมชาติ

3. บันทึกเสียงตัวเองและเปรียบเทียบเพื่อหาจุดบกพร่อง

ขั้นตอนการฝึก:

ขั้นที่

การดำเนินการ

1

บันทึกเสียงตัวเองพูดประโยคหรือบทสนทนา

2

ฟังกลับและจดจุดที่ต้องปรับปรุง

3

เปรียบเทียบกับเสียงเจ้าของภาษาในแอพ

4

ฝึกแก้ไขจุดที่แตกต่างโดยเฉพาะ

5

บันทึกซ้ำและเปรียบเทียบความก้าวหน้า

4. อย่ากลัวที่จะผิดพลาด

ความคิดที่ถูกต้อง:

  • ยอมรับว่าการทำผิดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้

  • อย่าเครียดกับความสมบูรณ์แบบในครั้งแรก

  • ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้า ไม่ใช่ความสมบูรณ์

  • ใช้แอพเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการลองผิดลองถูก

สิ่งที่ควรทำ:

ทำ ✓

ไม่ควรทำ ✗

ฝึกสม่ำเสมอแม้พูดยังไม่คล่อง

หยุดฝึกเพราะกลัวผิด

เรียนรู้จากข้อผิดพลาด

กังวลจนไม่กล้าพูด

ชื่นชมความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ

เปรียบเทียบกับคนอื่น

บทความแนะนำ:

5 หนังสือฝึก IELTS Speaking ที่ดีที่สุดไม่ควรพลาด!

รวมเว็บทำข้อสอบ IELTS พร้อมเฉลย ฝึกเหมือนสอบจริง

5 เว็บไซต์ฝึกพูดภาษาอังกฤษออนไลน์ สนุก ง่าย ใช้งานได้จริง!

V. คำถามที่พบบ่อยและข้อควรรู้

1. แอพฟรีเพียงพอต่อการฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองให้เก่งได้จริงหรือไม่?

ระดับ

แอพฟรี

แอพเสียเงิน

ผู้เริ่มต้น

เพียงพอ ✓

ดีกว่า แต่ไม่จำเป็น

ระดับกลาง

พอใช้ได้บางส่วน

แนะนำ เพื่อฟีเจอร์เพิ่มเติม

ระดับสูง

ไม่เพียงพอ

จำเป็น สำหรับวิเคราะห์ละเอียด

สรุป: แอพฟรีช่วยสร้างพื้นฐานได้ดี แต่หากต้องการพัฒนาขั้นสูง การอัปเกรดเป็นเวอร์ชันเสียเงินจะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้น

2. ฟีดแบคด้วย AI ในแอพฝึกพูดคืออะไร และทำงานอย่างไร?

คำจำกัดความ: ระบบ AI วิเคราะห์เสียงพูดและให้คำแนะนำแบบอัตโนมัติ

ขั้นตอนการทำงาน:

  1. รับเสียง - บันทึกเสียงพูดของคุณ

  2. วิเคราะห์ - เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลการออกเสียงที่ถูกต้อง

  3. ให้คะแนน - ประเมินความถูกต้องในแต่ละด้าน

  4. แนะนำ - ชี้จุดที่ต้องปรับปรุงและวิธีแก้ไข

ข้อดี-ข้อจำกัด:

ข้อดี

ข้อจำกัด

ได้ฟีดแบคทันที

ไม่เข้าใจบริบททางวัฒนธรรม

ฝึกได้ไม่จำกัด

ไม่เข้าใจความหมายโดยนัย

ไม่ต้องรอครู

อาจพลาดความผิดพลาดเล็กน้อย

3. แอพฝึกพูดภาษาอังกฤษมีกี่ประเภทหลักๆ?

3 ประเภทหลัก:

ประเภท

จุดเน้น

ตัวอย่างแอพ

เหมาะกับ

แอพฝึกออกเสียงและพื้นฐาน

แก้การออกเสียง

คำศัพท์พื้นฐาน

ELSA Speak

Pronunciation Power

ผู้เริ่มต้น

แอพสนทนาจำลอง

บทสนทนา

สถานการณ์ในชีวิตจริง

Duolingo

Busuu

ระดับกลาง

แอพเชื่อมต่อเจ้าของภาษา

แลกเปลี่ยนภาษา

พูดคุยกับคนจริง

HelloTalk

Tandem

ระดับกลาง-สูง

4. การฝึกพูดภาษาอังกฤษกับแอพแตกต่างจากการคุยกับเจ้าของภาษาจริงอย่างไร?

เกณฑ์เปรียบเทียบ

ฝึกกับแอพ

คุยกับเจ้าของภาษา

สภาพแวดล้อม

ปลอดภัย ไม่กดดัน

มีความกดดัน อาจเครียด

การทำผิด

ทำผิดได้ไม่จำกัด

กังวลเรื่องความผิดพลาด

การทบทวน

ทบทวนได้ทันที

ต้องจำหรือบันทึกเอง

ค่าใช้จ่าย

ถูกหรือฟรี

ค่อนข้างแพง

บริบทวัฒนธรรม

จำกัด

เข้าใจลึกซึ้ง

การตอบสนอง

ตามโปรแกรม

ยืดหยุ่น เป็นธรรมชาติ

ข้อแนะนำ: ใช้แอ ป สอน ภาษาเป็นเครื่องมือสร้างพื้นฐาน แล้วสนทนาจริงเพื่อฝึกทักษะขั้นสูง

การเลือกแอพฝึกพูดภาษาอังกฤษที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่เทคโนโลยี AI ที่แม่นยำ เนื้อหาที่หลากหลายและทันสมัย วิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ ระบบติดตามความก้าวหน้า ไปจนถึงความเหมาะสมกับระดับและเป้าหมายของผู้เรียน ไม่มีแอพใดที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน แต่การเข้าใจหลักเกณฑ์การเลือกและการใช้งานอย่างมีกลยุทธ์จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำไว้ว่าแอพเป็นเพียงเครื่องมือ ความสำเร็จที่แท้จริงมาจากความสม่ำเสมอและความตั้งใจในการฝึกฝนของคุณเอง

หากคุณกำลังมองหาคอร์สเรียน IELTS ออนไลน์ที่ครบวงจรและมีระบบฝึกพูดที่ทันสมัย PREP Edu เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยหลักสูตรที่แบ่งตามระดับอย่างชัดเจน ตั้งแต่ Foundation, Basic, Intermediate ไปจนถึง Advanced คุณจะได้รับการฝึกทั้ง 4 ทักษะอย่างสมดุล โดยเฉพาะฟีเจอร์ Virtual Speaking Room (VSR) ที่ใช้ AI ให้คะแนนและวิเคราะห์การพูดตามเกณฑ์ IELTS แท้จริง พร้อมทั้งมีเนื้อหาที่อัปเดตอยู่เสมอและระบบติดตามผลการเรียนแบบละเอียด PREP ช่วยให้คุณฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้อย่างมั่นใจและเห็นผลจริงในการสอบ IELTS

Mook
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุก ปัจจุบันดูแลด้านเนื้อหาผลิตภัณฑ์ของ Prep Education ค่ะ
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเอง ฉันเข้าใจดีถึงความท้าทายที่ผู้เรียนต้องเผชิญ แล้วก็รู้ว่าอะไรที่มันเวิร์ก
มุกอยากเอาประสบการณ์ตรงนี้มาช่วยแชร์ แล้วก็ซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ให้ได้คะแนนที่ดีที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 ตัวอักษร
Loading...

แผนการเรียนรู้ส่วนบุคคล

TH30

อ่านมากที่สุด

ติดต่อ Prep ผ่านโซเชียล

facebookyoutubeinstagram
Logo footer Prep light layout
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
get prep on Google Playget Prep on app store
หลักสูตร
เชื่อมต่อกับเรา
mail icon - footerfacebook icon - footer
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย
DMCA protect