


ค้นหาบทความการศึกษา
หนังสือเรียนภาษาอังกฤษ 18 เล่มที่ทุกคนควรมีให้เก่งขึ้น!
"ควรใช้หนังสืออะไรเมื่อต้องการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ?" คำถามนี้เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยเมื่อต้องการเริ่มต้นพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ในบทความนี้ PREP จะมาแนะนําหนังสือภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่สำหรับผู้เริ่มต้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่ต้องการแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านคำศัพท์ ไวยากรณ์ การออกเสียง และหนังสือ เรียน อังกฤษที่เน้นพัฒนาทักษะทั้งสี่ด้าน ได้แก่ Listening, Speaking, Reading, Writing คุณสามารถเลือกหนังสือที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเรียนรู้ของคุณได้จากลิสต์นี้

I. English book เรียนคําศัพท์
ก่อนอื่น PREPแนะนําหนังสือภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาคลังคำศัพท์ พร้อมข้อมูลข้อดีและข้อเสียของแต่ละเล่มเพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
1. Mind Map English Vocabulary
Mind Map English Vocabulary เป็นหนังสือเรียนภาษาอังกฤษที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาคำศัพท์ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเทคนิค Mind Mapping หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Hoang Ngan ครูผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษและเทคนิคการเรียน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
ใช้ Mind Mapping: หนังสือใช้แผนภาพช่วยเชื่อมโยงและแสดงความสัมพันธ์ของคำศัพท์ ทำให้จดจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น |
ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนไวยากรณ์: หนังสือมุ่งเน้นเฉพาะคำศัพท์และการสร้าง Mind Map โดยไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวยากรณ์มากนัก |
มีหัวข้อหลากหลาย: หนังสือครอบคลุมคำศัพท์จากหลายหมวดหมู่ ทำให้ผู้เรียนสามารถขยายคลังคำศัพท์ในบริบทที่หลากหลาย |
ต้องใช้เวลาและความพยายาม: การสร้างและใช้งาน Mind Map อาจต้องใช้เวลาและความอดทนสูง |
ดาวน์โหลด Mind Map English Vocabulary ได้ที่นี่
2. English Vocabulary in Use
English Vocabulary in Use เป็นหนังสือคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีชื่อเสียง จัดทำโดย Cambridge University Press หนังสือ เรียน อังกฤษชุดนี้แบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน จุดมุ่งหมายหลักของหนังสือคือช่วยให้ผู้เรียนสามารถขยายคลังคำศัพท์และพัฒนาการใช้คำศัพท์ในทั้ง การสื่อสารและการเขียน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
แบ่งระดับตามความสามารถ: มีระดับตั้งแต่พื้นฐานถึงขั้นสูง ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับตนเอง |
ไม่ได้ครอบคลุมไวยากรณ์มากนัก: หนังสือเน้นเรื่องคำศัพท์เป็นหลัก และไม่ได้ให้ข้อมูลไวยากรณ์อย่างละเอียด |
มีภาพประกอบ: มีภาพช่วยอธิบาย ทำให้เข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น |
ไม่ได้ครอบคลุมทักษะภาษาอื่น ๆ: English Vocabulary in Use เน้นเรื่องคำศัพท์เท่านั้น ไม่ได้ให้เนื้อหาเกี่ยวกับทักษะการฟัง พูด และเขียนมากนัก |
ดาวน์โหลด Academic Vocabulary in Use ได้ที่นี่
II. English book เรียนไวยากรณ์
เมื่อต้องการพิชิตไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วน ควรเลือกใช้หนังสือไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเล่มไหน? PREP แนะนําหนังสือภาษาอังกฤษเรียนไวยากรณ์ด้านล่างนี้!

English Grammar in Use เป็นหนึ่งในหนังสือไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมและใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงโดย Raymond Murphy และได้รับการอัปเดตและพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้ไวยากรณ์ด้วยตนเอง โดยเน้นการอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย พร้อมแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถฝึกใช้ไวยากรณ์ได้จริง
ข้อดี |
ข้อเสีย |
วิธีการสอนที่ชัดเจน: อธิบายไวยากรณ์ได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอนและเข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงภาษาที่ยุ่งยาก ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น |
ไม่เหมาะสำหรับระดับสูงมาก: หนังสือออกแบบมาเพื่อผู้เรียนระดับกลางถึงสูง แต่ถ้าผู้เรียนต้องการศึกษาไวยากรณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น อาจต้องใช้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม |
มีการอัปเดตเป็นประจำ: ฉบับล่าสุดของหนังสือมีการอัปเดตเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษและมาตรฐานภาษาล่าสุด |
ดาวน์โหลด English Grammar in Use ได้ที่นี่
III. หนังสือเรียนภาษาอังกฤษสำหรับการออกเสียง
หากต้องการฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วเหมือนเจ้าของภาษา นอกจากการฝึกฟังเป็นประจำแล้ว คุณยังต้องมีหนังสือฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เข้าใจพื้นฐานของสระ พยัญชนะ และวิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง หนังสือสองเล่มต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างลึกซึ้ง
1. English Pronunciation in Use
English Pronunciation in Use เป็นหนังสือ เรียน อังกฤษที่ช่วยพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษและทำความเข้าใจการสร้างเสียงของแต่ละคำ หนังสือเล่มนี้เรียบเรียงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษ และมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบต่าง ๆ ของเสียงภาษาอังกฤษ พร้อมแบบฝึกหัดและกิจกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
ข้อดี |
ข้อเสีย |
เน้นการอธิบายการออกเสียงอย่างละเอียด: หนังสือให้คำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการออกเสียงแต่ละเสียงในภาษาอังกฤษ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและฝึกฝนการออกเสียงอย่างถูกต้อง |
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับไวยากรณ์มากนัก: หนังสือเล่มนี้เน้นการออกเสียงเป็นหลัก ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ |
มีภาพประกอบและเสียงตัวอย่าง: หนังสือรวมสื่อภาพและเสียง เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถดูและฟังการออกเสียงที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น |
ดาวน์โหลด English Pronunciation in Use ได้ที่นี่
2. American English Pronunciation
American English Pronunciation เป็นหนังสือที่สอนวิธีการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้อ่านพัฒนาทักษะการออกเสียง เพิ่มคลังคำศัพท์ และเข้าใจหลักไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้อง เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประโยชน์สำหรับนักเรียน ผู้ประกอบวิชาชีพ และบุคคลทั่วไปที่ต้องการฝึกสำเนียงอเมริกันให้ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
ข้อดี |
ข้อเสีย |
คำแนะนำที่ละเอียดเกี่ยวกับการออกเสียงสำเนียงอเมริกัน: หนังสือให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงสำเนียงอเมริกัน ทำให้ผู้เรียนเข้าใจและสามารถฝึกออกเสียงได้อย่างมั่นใจ |
ขาดความหลากหลายของโทนเสียง: อาจไม่ได้ครอบคลุมลักษณะการเปลี่ยนแปลงของสำเนียงอเมริกันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งอาจทำให้ผู้เรียนปรับตัวเข้ากับสำเนียงที่หลากหลายได้ยากขึ้น |
มีไฟล์เสียงประกอบ: หนังสือมีลิงก์ไปยังไฟล์เสียงออนไลน์หรือแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถฟังและเปรียบเทียบการออกเสียงกับเจ้าของภาษา |
ดาวน์โหลด American English Pronunciation ได้ที่นี่
IV. English book พัฒนาทักษะทั้ง 4 ด้าน
การเรียนภาษาอังกฤษผ่าน 4 ทักษะหลัก ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้ภาษาได้อย่างครบถ้วน หนังสือเรียนภาษาอังกฤษเล่มไหนที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้? มาดูกับ PREP!
1. ทักษะการฟัง
1.1 Get Ready for IELTS Listening
Get Ready for IELTS Listening เป็นหนังสือฝึกทักษะการฟังที่เหมาะสำหรับผู้ที่เตรียมตัวสอบ IELTS หนังสือ เรียน อังกฤษเล่มนี้มีแบบฝึกหัดการฟังที่หลากหลาย รวมถึงแบบทดสอบที่ช่วยให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับโครงสร้างของข้อสอบ IELTS Listening
ข้อดี |
ข้อเสีย |
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น IELTS: หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้เรียนที่อยู่ในระดับพื้นฐาน และช่วยวางรากฐานทักษะการฟังให้แข็งแกร่ง |
อธิบายข้อผิดพลาดไม่ละเอียดพอ: หนังสืออาจมีข้อจำกัดในการให้คำอธิบายเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และแนวทางการแก้ไข |
มีแบบฝึกหัดที่หลากหลาย: แบบฝึกหัดครอบคลุมหลายระดับ ตั้งแต่ง่ายไปยาก ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะอย่างเป็นขั้นตอน |
ดาวน์โหลด Get Ready for IELTS Listening ได้ที่นี่
1.2 Tactic for Listening – Basic
Tactic for Listening – Basic เป็นหนังสือฝึกทักษะการฟังที่เหมาะสำหรับผู้เรียนระดับพื้นฐาน หนังสือเล่มนี้เน้นการพัฒนาความเข้าใจการฟังผ่าน ไฟล์เสียงและบทสนทนาง่าย ๆ

ข้อดี |
ข้อเสีย |
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น: Tactic for Listening – Basic เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษและต้องการฝึกทักษะการฟังจากระดับพื้นฐาน |
หัวข้อการฟังยังไม่หลากหลายพอ: หนังสือเน้นไปที่บทสนทนาแบบง่าย ๆ และยังขาดเนื้อหาการฟังที่ครอบคลุมหัวข้อที่ซับซ้อนมากขึ้น |
มีแบบฝึกหัดที่นำไปใช้ได้จริง: หนังสือประกอบด้วยแบบฝึกหัดที่อิงจากชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างประโยคพื้นฐาน |
ดาวน์โหลด Tactic for Listening ได้ที่นี่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูบทความ: หนังสือฝึก IELTS Listening ที่ดีที่สุด 6 เล่ม
2. ทักษะการพูด
2.1 Succeed in IELTS Speaking and Vocabulary
Succeed in IELTS Speaking and Vocabulary เป็นหนังสือที่ช่วยผู้เรียนฝึกทักษะการพูดและขยายคลังคำศัพท์เพื่อเตรียมตัวสอบ IELTS Speaking หนังสือเล่มนี้เน้นไปที่ 2 องค์ประกอบหลัก ของการสอบพูด ได้แก่ ความสามารถในการพูด และ ความรู้ด้านคำศัพท์
ข้อดี |
ข้อเสีย |
มีคำศัพท์ที่หลากหลาย: หนังสือให้คำศัพท์ที่ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในข้อสอบ |
ไม่ได้ครอบคลุมทุกพาร์ทของข้อสอบ IELTS: หนังสือเน้นเฉพาะพาร์ท Speaking และ Vocabulary อาจไม่ได้ช่วยเตรียมตัวสำหรับพาร์ท Listening, Reading และ Writing ได้อย่างครบถ้วน |
มีเทคนิคการฝึกพูด: หนังสือแนะนำกลยุทธ์และเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์สำหรับการฝึกและเตรียมตัวสอบ Speaking |
ดาวน์โหลด Succeed in IELTS Speaking and Vocabulary ได้ที่นี่
2.2 Basic IELTS Speaking
Basic IELTS Speaking เป็นหนังสือฝึกทักษะการพูดที่เหมาะสำหรับผู้เรียนที่เตรียมตัวสอบ IELTS Speaking โดยเน้นไปที่องค์ประกอบพื้นฐานของข้อสอบ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจรูปแบบและแนวทางการตอบคำถามในแต่ละพาร์ท
ข้อดี |
ข้อเสีย |
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น IELTS: หนังสือ Basic IELTS Speaking ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ที่อยู่ในระดับพื้นฐานและต้องการทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างข้อสอบ Speaking |
ไม่ค่อยมีความท้าทายสำหรับผู้เรียนระดับสูง: เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นพื้นฐาน จึงอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะ Speaking ในระดับสูง |
มีตัวอย่างประโยคสำหรับตอบคำถาม: หนังสือมีตัวอย่างคำตอบที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจแนวทางการตอบคำถามอย่างมั่นใจ |
ดาวน์โหลด Basic IELTS Speaking ได้ที่นี่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูบทความ: 5 หนังสือฝึก IELTS Speaking ที่ดีที่สุดไม่ควรพลาด!
3. ทักษะการอ่าน
3.1 Basic IELTS Reading
Basic IELTS Reading แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Introduction, Reading Comprehension Practice และ Answers หนังสือฝึกทักษะ IELTS Reading เล่มนี้ให้ภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับประเภทคำถามในข้อสอบ พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการตอบคำถามให้รวดเร็วและแม่นยำ
ข้อดี |
ข้อเสีย |
ออกแบบบทเรียนให้เข้าใจง่าย: เนื้อหาภายในเล่มจัดเรียงลำดับจากง่ายไปยาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการฝึกทักษะการอ่านอย่างเป็นขั้นตอน |
เขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด: เนื่องจากหนังสือใช้ภาษาอังกฤษ 100% ผู้เรียนจำเป็นต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับหนึ่งเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหา |
มีเทคนิคและกลยุทธ์การทำข้อสอบ: แนะนำวิธีตอบคำถามแต่ละประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้กับสถานการณ์จริงได้ |
ดาวน์โหลด Basic IELTS Reading ได้ที่นี่
3.2 Get Ready for IELTS Reading
Get Ready for IELTS Reading ประกอบด้วย 12 บทเรียน โดยแต่ละบทมุ่งเน้นไปที่รูปแบบคำถามที่พบในข้อสอบ IELTS Reading หนังสือเล่มนี้ยังมีคำศัพท์ตามหัวข้อและเคล็ดลับสำหรับแต่ละประเภทคำถาม
ข้อดี |
ข้อเสีย |
ให้เคล็ดลับและคำแนะนำสั้น ๆ: จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ Quick Tips & Hints ที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจแนวทางการตอบคำถามที่พบบ่อยได้รวดเร็วขึ้น |
ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด: หนังสือเล่มนี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษล้วน อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่คุ้นเคยกับการอ่านภาษาอังกฤษ |
มีคำศัพท์สรุปในแต่ละบท: ส่วน Glossary สรุปคำศัพท์สำคัญและอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม ช่วยให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดที่ซับซ้อนขึ้นได้ง่ายขึ้น |
ดาวน์โหลด Get Ready for IELTS Reading ได้ที่นี่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูบทความ: 4 หนังสือฝึก IELTS Reading ที่ต้องอ่าน
4. ทักษะการเขียน
4.1 Barron’s Writing For The IELTS
Barron’s Writing For The IELTS เป็นหนังสือเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนเพื่อเตรียมสอบ IELTS Writing หนังสือเล่มนี้เน้นการพัฒนาทักษะการเขียนสำหรับข้อสอบโดยเฉพาะ พร้อมทั้งให้คำแนะนำ ตัวอย่าง และแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดี |
ข้อเสีย |
อธิบายเนื้อหาอย่างละเอียด: หนังสือให้คำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS Writing Task 1 และ Task 2 ครอบคลุมโครงสร้าง ไวยากรณ์ และแนวทางการเขียนที่เหมาะสม |
อาจไม่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้เรียน: หนังสืออาจมีขอบเขตจำกัดในบางหัวข้อ ทำให้ผู้เรียนต้องหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมทุกเนื้อหา |
ดาวน์โหลด Barron’s Writing For The IELTS ได้ที่นี่
4.2 IELTS Advantage Writing Skills
IELTS Advantage Writing Skills เป็นหนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะการเขียนสำหรับการสอบ IELTS Writing โดยเน้นไปที่โครงสร้างของการเขียน Task 1 และ Task 2 รวมถึงแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการเขียนได้อย่างเป็นระบบ
ข้อดี |
ข้อเสีย |
คำแนะนำที่ชัดเจน: หนังสือมีคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการเขียน รูปแบบต่าง ๆ ในข้อสอบ IELTS Writing ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจแนวทางการเขียนได้ง่ายขึ้น |
ครอบคลุมหัวข้อที่จำกัด: หนังสือเน้นเฉพาะบางหัวข้อ ซึ่งอาจทำให้ขาดความหลากหลายในด้านเนื้อหาการเขียนที่กว้างขึ้น |
มีตัวอย่างและแบบฝึกหัดมากมาย: หนังสือมีตัวอย่างการเขียนที่เป็นประโยชน์ พร้อมแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้เรียนฝึกฝนและปรับปรุงทักษะการเขียน |
ดาวน์โหลด IELTS Advantage Writing Skills ได้ที่นี่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูบทความ: หนังสือ IELTS Writing แนะนำ 4 เล่ม
V. หนังสือสำนวนภาษาอังกฤษ
สำนวน (Idioms) เป็นหนึ่งในส่วนที่ท้าทายของภาษาอังกฤษ เนื่องจากไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ผู้เรียนจึงต้องจำและฝึกใช้ในสถานการณ์จริง PREP ได้รวบรวม 2 หนังสือเฉพาะทางสำหรับการเรียนรู้สำนวนภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
1. Oxford Dictionary of Idioms
Oxford Dictionary of Idioms เป็นพจนานุกรมที่รวบรวม สำนวนภาษาอังกฤษ อย่างละเอียด จัดพิมพ์โดย Oxford University Press และถือเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับการเรียนรู้สำนวน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้: Oxford University Press เป็นหนึ่งในสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้ข้อมูลในพจนานุกรมเล่มนี้มีความแม่นยำและเชื่อถือได้ |
อาจไม่อัปเดตสำนวนใหม่อย่างต่อเนื่อง: ภาษาอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากหนังสือไม่ได้รับการอัปเดตเป็นประจำ อาจทำให้ขาดข้อมูลเกี่ยวกับสำนวนใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น |
ใช้งานง่าย: หนังสือมีโครงสร้างที่ชัดเจน และค้นหาความหมายของสำนวนได้สะดวก |
2. Oxford Word Skills: Idioms and Phrasal Verbs
Oxford Word Skills: Idioms and Phrasal Verbs เป็นหนังสือที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ สำนวน (Idioms) และวลีประกอบ (Phrasal Verbs) ผ่านบทเรียนและแบบฝึกหัดที่หลากหลาย หนังสือเล่มนี้จัดโครงสร้างให้แต่ละบทเรียนครอบคลุมกลุ่มสำนวนหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเฉพาะ ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจความหมาย บริบทการใช้งาน และวิธีนำไปใช้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี |
ข้อเสีย |
มีโครงสร้างที่ชัดเจน: หนังสือแบ่งหัวข้อและบทเรียนออกอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้เรียนสามารถศึกษาได้อย่างเป็นขั้นตอน |
ครอบคลุมเนื้อหาในขอบเขตที่จำกัด: หนังสืออาจไม่ได้รวบรวมสำนวนและวลีทั้งหมดที่มีอยู่ในภาษาอังกฤษ |
มีตัวอย่างและแบบฝึกหัดประกอบ: หนังสือมีตัวอย่างการใช้งานจริงและแบบฝึกหัดที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ทันที |
ดาวน์โหลด Oxford Word Skills: Idioms and Phrasal Verbs ได้ที่นี่
VI. พจนานุกรมภาษาอังกฤษคุณภาพสูง
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษคือ พจนานุกรมคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือ พจนานุกรมภาษาอังกฤษช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้างไวยากรณ์ และการใช้คำในบริบทที่ถูกต้อง
มาทำความรู้จัก 2 พจนานุกรมคุณภาพสูงจากสำนักพิมพ์ Oxford University Press ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เรียนทั่วโลก!
1. Oxford Advanced Learner’s Dictionary
Oxford Advanced Learner’s Dictionary (OALD) เป็นหนึ่งในพจนานุกรมที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือมากที่สุดสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษทั่วโลก จัดพิมพ์โดย Oxford University Press และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาภาษาอังกฤษ
ข้อดี |
ข้อเสีย |
อธิบายคำศัพท์อย่างละเอียด: พจนานุกรมเล่มนี้ให้คำนิยามที่ชัดเจน พร้อมตัวอย่างประโยคและวิธีใช้คำศัพท์ในชีวิตจริง |
ราคาค่อนข้างสูง: Oxford Advanced Learner’s Dictionary มีราคาสูงกว่าพจนานุกรมอื่น ๆ ในท้องตลาด |
มีคำอ่านที่ชัดเจน: ทุกคำศัพท์มาพร้อมกับการออกเสียงที่ถูกต้อง ช่วยให้ผู้เรียนฝึกการออกเสียงได้ง่ายขึ้น |
ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น: เนื่องจากพจนานุกรมเขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษน้อยอาจเข้าใจเนื้อหาได้ยาก |
มีฟีเจอร์ออนไลน์และแอปพลิเคชันมือถือ: สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยให้ค้นหาคำศัพท์ได้สะดวก |
ไม่มีฟังก์ชันเสริมมากนัก: เมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันพจนานุกรมออนไลน์บางตัว อาจไม่มีฟีเจอร์พิเศษ เช่น การค้นหาคำพ้องความหมายหรือคำตรงข้ามได้ในเชิงลึก |
อัปเดตคำศัพท์เป็นประจำ: สำนักพิมพ์ Oxford University Press มีการปรับปรุงพจนานุกรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มคำศัพท์ใหม่และภาษาที่ใช้กันมากขึ้น |
ดาวน์โหลด Oxford Advanced Learner’s Dictionary ได้ที่นี่ (กำลังอัปเดต)
2. Oxford Learner’s Pocket Thesaurus
Oxford Learner’s Pocket Thesaurus เป็นพจนานุกรมที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถค้นหา คำพ้องความหมาย (synonyms) และคำตรงข้าม (antonyms) ได้อย่างง่ายดาย หนังสือเล่มนี้มาพร้อมตัวอย่างประโยคและข้อมูลการใช้คำศัพท์ เพื่อช่วยให้เข้าใจบริบทและการใช้คำในชีวิตประจำวัน
ข้อดี |
ข้อเสีย |
คำศัพท์หลากหลาย: หนังสือเล่มนี้ให้รายการคำพ้องและคำตรงข้ามที่ครอบคลุม ช่วยให้ผู้เรียนขยายคลังคำศัพท์และพัฒนาทักษะการเขียนและการสื่อสาร |
จำนวนคำศัพท์อาจจำกัด: เมื่อเทียบกับพจนานุกรมคำพ้องขนาดใหญ่ หนังสือเล่มนี้อาจมีคำศัพท์ไม่มากเท่า |
จัดระเบียบอย่างชัดเจน: คำศัพท์เรียงตามตัวอักษร ทำให้ค้นหาและเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก |
ไม่มีการอัปเดตบ่อยนัก: เวอร์ชันพิมพ์อาจไม่ได้รับการอัปเดตคำศัพท์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ |
มีตัวอย่างและคำอธิบายการใช้คำ: ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายและบริบทของคำได้ดีขึ้น |
ไม่มีข้อมูลการออกเสียงหรือที่มาของคำ: หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกเสียงหรือรากศัพท์เหมือนพจนานุกรมฉบับเต็ม |
ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก: สามารถพกติดตัวไปเรียนหรือใช้ค้นหาคำศัพท์ได้ทุกที่ |
PREP หวังว่าการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ หนังสือเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด ในบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสมกับระดับของคุณ หากคุณต้องการเตรียมตัวสอบอย่างมีประสิทธิภาพ ติวสอบ IELTS ออนไลน์ กับ PREP จะช่วยเสริมทักษะและพัฒนาความมั่นใจในการสอบ ติดตาม PREP สำหรับรีวิวเชิงลึกของแต่ละเล่มในบทความถัดไป!

ความคิดเห็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ค้นหาบทความการศึกษา
แผนที่เฉพาะบุคคล
อ่านมากที่สุด
ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน
กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

เชื่อมต่อกับ Prep
