Post Language Selector บทความได้รับการแปลเป็นหลายภาษาแล้ว:
thTHenENviVI

ค้นหาบทความการศึกษา

รีวิวหนังสือ Effortless English – ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็ว!

เมื่อพูดถึงหนังสือฝึกพูดภาษาอังกฤษที่ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ หนังสือ Effortless English เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้ PREP จะมารีวิว Effortless English PDF MP3 ทั้ง 4 เล่ม ซึ่งเป็นชุดหนังสือที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามความกลัวในการใช้ภาษาอังกฤษ และสร้างความมั่นใจในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

 

รีวิวหนังสือ Effortless English – ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็ว!
รีวิวหนังสือ Effortless English – ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็ว!

I. ทำความรู้จักกับวิธีการเรียนหนังสือ Effortless English

ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจแนวคิดของวิธีการเรียนภาษาอังกฤษแบบ Effortless English กัน รวมถึงหลักการใช้งานหนังสือ ข้อดี และข้อจำกัดของวิธีนี้

1. Effortless English คืออะไร

Effortless English เป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่พัฒนาโดย AJ Hoge ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกัน โดยเน้นให้ผู้เรียนซึมซับภาษาแบบธรรมชาติ เหมือนกับการเรียนรู้ภาษาแม่ของตัวเอง เป้าหมายหลักของ Effortless English คือช่วยให้ผู้เรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ โดยไม่ต้องพึ่งพาการท่องจำไวยากรณ์มากเกินไป

  • ชื่อหนังสือ: Effortless English

  • ผู้เขียน: AJ Hoge

  • จำนวน: 4 เล่ม

  • ภาษา: อังกฤษ

จุดเด่นของวิธี Effortless English

  • เรียนรู้จากสถานการณ์จริงและภาษาที่ใช้จริง: Effortless English สอนภาษาอังกฤษผ่านบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องราวสนุก ๆ และบทสนทนาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์ในบริบทที่ใช้จริง ไม่ใช่แค่เรียนรู้แบบท่องจำ

  • ฝึกฟังและพูดซ้ำ: แนวทางของ Effortless English คือให้ผู้เรียนฝึกฟังไฟล์เสียงซ้ำ ๆ และพยายามพูดตาม วิธีนี้ช่วยพัฒนาการออกเสียงและทำให้พูดภาษาอังกฤษได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น

  • เชื่อมโยงอารมณ์กับการเรียนรู้: AJ Hoge เชื่อว่าการเรียนภาษาอังกฤษควรเป็นเรื่องสนุกและสร้างแรงบันดาลใจ การเรียนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเชิงบวกจะช่วยให้ผู้เรียนจดจำและใช้ภาษาได้ดีขึ้น

  • เรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า: Effortless English ใช้เรื่องเล่าสั้น ๆ เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกขึ้น เนื้อหาที่เป็นเรื่องราวทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ได้ดีขึ้น

  • สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เป็นธรรมชาติ: AJ Hoge สนับสนุนให้ผู้เรียนสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่คล้ายกับการเรียนรู้ภาษาแม่ เช่น การฟังและพูดซ้ำบ่อย ๆ โดยไม่ต้องเครียดเรื่องไวยากรณ์มากเกินไปในช่วงแรก

2. หลักการสำคัญในวิธีหนังสือ Effortless English

วิธีการ Effortless English ที่พัฒนาโดย AJ Hoge มี 7 หลักการสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละหลักการมีรายละเอียดดังนี้:

รีวิวหนังสือ Effortless English – ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็ว!
หลักการสำคัญในวิธีหนังสือ Effortless English

● เรียนรู้เป็นวลี ไม่ใช่คำศัพท์เดี่ยว ๆ: แทนที่จะเขียนคำศัพท์ใหม่ ๆ เป็นรายการยาวและท่องจำไปเรื่อย ๆ วิธี Effortless English แนะนำให้เรียนรู้เป็นวลีหรือกลุ่มคำ วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำไปใช้จริงในบทสนทนาและช่วยขยายคลังคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่าง:
คำกริยาอย่าง go, get และ take จะมีความหมายที่เปลี่ยนไปเมื่อใช้ร่วมกับบุพบท:

  • Take up หมายถึง "เริ่มกิจกรรมใหม่" (start a new habit)

  • Take out หมายถึง "นำออกมา" (move something out)

  • Take after หมายถึง "คล้ายกับ" (resemble someone in appearance or personality)

● ไม่เน้นการอธิบายไวยากรณ์: ในช่วงแรกของการเรียน ผู้เรียนไม่ควรโฟกัสกับการทำความเข้าใจไวยากรณ์มากเกินไป เพราะอาจทำให้การพูดติดขัดและดูแห้งแล้ง สิ่งที่ควรทำคือการฝึกฟังและใช้ภาษาจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อคุ้นเคยกับภาษาแล้ว ค่อยศึกษาไวยากรณ์เพิ่มเติม

● เรียนรู้ผ่านการฟัง ไม่ใช่การอ่าน: ผู้เรียนควรใช้เวลาฝึกฟังไฟล์เสียง บทสนทนา และเรื่องเล่า มากกว่าการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว เพราะการฟังช่วยพัฒนาทักษะการฟังและการออกเสียงที่เป็นธรรมชาติ

● เรียนรู้แบบซึมซับ – ค่อยเป็นค่อยไป: ผู้เรียนควรฝึกฟังซ้ำ ๆ เพื่อให้ความรู้ติดอยู่ในสมองระยะยาว กฎสำคัญของ Effortless English คือ “ฟังซ้ำ ฟังซ้ำ และฟังซ้ำ” วิธีนี้ช่วยให้ผู้เรียนจดจำภาษาและพัฒนาการออกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

● เรียนไวยากรณ์ผ่านการฟังและการใช้จริง: ในวิธีนี้ ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์โครงสร้างไวยากรณ์ เพียงแค่ฟังเรื่องราวในหลาย ๆ เวอร์ชัน โฟกัสไปที่เหตุการณ์ในเรื่อง หลังจากฟังซ้ำหลายครั้ง ผู้เรียนจะค่อย ๆ ซึมซับไวยากรณ์ได้โดยอัตโนมัติ

● เรียนภาษาอังกฤษที่ใช้จริงก่อน แล้วค่อยเรียนคำศัพท์เฉพาะ: เนื้อหาในตำราเรียนมักเน้นคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ยากเกินความจำเป็น ดังนั้น ควรเริ่มจากวลีที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น

  • How’s it going? (เป็นอย่างไรบ้าง?)

  • Can I give you a hand? (ให้ช่วยอะไรไหม?)

  • I’ll be right back. (เดี๋ยวกลับมา)

เมื่อคุ้นเคยกับภาษาในชีวิตประจำวันแล้ว ค่อยพัฒนาคำศัพท์และไวยากรณ์ที่ซับซ้อนขึ้น

● เรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า: การเรียนผ่านเรื่องเล่าและนิทานช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษน่าสนใจและสนุกขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนจดจำคำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์ในบริบทที่ชัดเจน

วิธี Effortless English อาจเหมาะกับผู้เรียนบางคน แต่ไม่ใช่ทุกคน การลองใช้วิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายจะช่วยให้คุณค้นพบแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด!

3. กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับหนังสือ Effortless English

Effortless English สำหรับฝึกพูดภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติและคล่องแคล่ว โดยกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้แก่:

● ผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ: Effortless English เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษใหม่ ๆ เนื่องจากวิธีการนี้เน้นการฟังและการพูดซ้ำ ซึ่งช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านทักษะการฟังและการออกเสียง

● ผู้ที่ต้องการพัฒนาความเข้าใจในการฟัง: สำหรับผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษมาสักระยะหนึ่ง แต่ยังมีปัญหาในการฟังบทสนทนาในชีวิตจริง วิธี Effortless English สามารถช่วยพัฒนาทักษะการฟังให้ดีขึ้น

● ผู้ที่ต้องการปรับปรุงการออกเสียงและการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ: Effortless English เน้นการฟังและการพูดซ้ำเพื่อพัฒนาการออกเสียงและการแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและความคล่องแคล่วในการพูดภาษาอังกฤษ

● ผู้ที่ชอบการเรียนรู้ผ่านเรื่องราวและบริบท: ด้วยการใช้เรื่องเล่าและสถานการณ์ในชีวิตจริงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ผู้ที่สนุกกับการเรียนรู้ผ่านเรื่องราวและการปฏิสัมพันธ์ในสถานการณ์จริง จะพบว่าวิธีนี้น่าสนใจและสนุก

อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงว่าวิธีการเรียนรู้ใด ๆ ก็ไม่สามารถเหมาะกับทุกคน ผู้เรียนแต่ละคนมีเป้าหมายและสไตล์การเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวิธีการเรียนรู้ควรพิจารณาตามความต้องการและเงื่อนไขของผู้เรียนเอง

II. ข้อดีและข้อเสียของหนังสือ Effortless English

เพื่อช่วยให้คุณประเมินเนื้อหาของหลักสูตรได้อย่างรอบด้าน นี่คือข้อดีและข้อเสียของหนังสือ Effortless English:

1. ข้อดี

  • เน้นการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ: วิธีการนี้ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ พร้อมสร้างโอกาสในการใช้ภาษาในสถานการณ์จริง

  • พัฒนาทักษะการฟัง: ด้วยการฟังและการพูดซ้ำ ผู้เรียนจะมีโอกาสพัฒนาความเข้าใจในการฟังและการตอบสนองอย่างรวดเร็วในบทสนทนา

  • สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เหมือนเจ้าของภาษา: Effortless English ส่งเสริมการเรียนรู้ในลักษณะเดียวกับการเรียนรู้ภาษาแม่ ช่วยให้ผู้เรียนซึมซับภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

  • ไม่เน้นไวยากรณ์ตั้งแต่เริ่มต้น: หลักสูตรนี้ไม่ได้เน้นให้ผู้เรียนต้องเรียนไวยากรณ์ตั้งแต่แรก ช่วยให้ผู้เรียนโฟกัสไปที่การใช้ภาษาในสถานการณ์จริงก่อน ลดความกดดันและความรู้สึกท้อแท้ในช่วงแรกของการเรียน

  • ผสมผสานเรื่องเล่าและการเล่านิทาน: การใช้เรื่องเล่าและนิทานสั้น ๆ ทำให้การเรียนรู้สนุกขึ้น ช่วยกระตุ้นจินตนาการและสร้างความน่าสนใจในการเรียน

2. ข้อเสีย

  • ใช้เวลามากในการเรียนให้ครบถ้วน
    เนื่องจากหลักสูตรนี้เน้นการฟังและการพูดซ้ำ ผู้เรียนจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างมาก ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางเวลาที่แน่น

  • ขอบเขตของไวยากรณ์มีจำกัด: แม้ว่าหลักสูตรจะไม่เน้นไวยากรณ์มากเกินไป แต่นั่นอาจทำให้ผู้เรียนขาดความเข้าใจในโครงสร้างไวยากรณ์ได้

  • ไม่เหมาะกับทุกคน: วิธีนี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนไวยากรณ์ตั้งแต่เริ่มต้น หรือผู้ที่ต้องการวิธีการเรียนที่มีระบบและโครงสร้างชัดเจน

  • ไม่ได้ผลสำหรับทุกคนเสมอไป: แม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลสำหรับหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนได้ เนื่องจากความมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สไตล์การเรียนรู้ สภาพแวดล้อม และเป้าหมายส่วนตัว

III. รีวิวหนังสือ Effortless English 4 เล่ม สำหรับฝึกพูดภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษา

เพื่อช่วยให้คุณเลือกหนังสือ Effortless English ที่เหมาะกับระดับของคุณ ด้านล่างนี้ PREP ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นและโครงสร้างเนื้อหาของแต่ละเล่มมาให้คุณพิจารณา!

1. Effortless English: 60-hour English root recovery program

โปรแกรมฟื้นฟูพื้นฐานภาษาอังกฤษ 60 ชั่วโมง – ระดับ 1

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้วิธีการเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลา 60 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษ พัฒนาทักษะการฟัง เพิ่มคลังคำศัพท์และไวยากรณ์ รวมถึงสร้างวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเองที่มีประสิทธิภาพ

โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร

โครงสร้างหนังสือ

เนื้อหาโดยละเอียด

I. แนวคิดหลักของ Effortless English

- Effortless English คืออะไร?

- หลักการของ EE

- 3 องค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้: จิตใจ - ร่างกาย - วิธีการ

- การประยุกต์ใช้วิธี Effortless English ในการเรียนคำศัพท์ บทสนทนา การออกเสียง และไวยากรณ์

II. เนื้อหาหลัก

- 12 หัวข้อบทสนทนาพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น

- การพัฒนาการออกเสียงเบื้องต้น

- การออกเสียงคำในบทสนทนาได้อย่างถูกต้อง

- เข้าใจโครงสร้างประโยคพื้นฐานในบทสนทนา

- แบบฝึกหัดเสริม

III. หัวข้อคำศัพท์ในหนังสือ

- Shopping: Which dress do you like? (การช้อปปิ้ง: ชุดไหนที่คุณชอบ)

- Describing people (การบรรยายลักษณะของคน)

- Choosing a movie (การเลือกหนัง)

- Ordering food at restaurant (การสั่งอาหารที่ร้านอาหาร)

- Health I am getting in shape (สุขภาพ: ฉันกำลังฟิตร่างกาย)

- Making an appointment (การนัดหมาย)

- Going on a vacation (การไปเที่ยวพักผ่อน)

- Transportations (การเดินทาง)

หนังสือ Effortless English ถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ เหมาะสำหรับผู้เรียนหลากหลายกลุ่ม

 
รีวิวหนังสือ Effortless English – ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็ว!
Effortless English สำหรับผู้ที่มีระดับพื้นฐาน หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเรียนใหม่และฟื้นฟูพื้นฐานภาษาอังกฤษของตนเอง

2. Effortless English: Confidently Pronounce Correctly

โปรแกรมการออกเสียงมาตรฐาน – ระดับ 2
หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและชัดเจน โดยรวมถึงแบบฝึกหัดและคำแนะนำเกี่ยวกับการออกเสียงเสียงภาษาอังกฤษแต่ละเสียง

โครงสร้างเนื้อหาหลักสูตร

บทนำทั่วไป

เนื้อหาบทเรียน

Part I: การออกเสียง

- หน่วยที่ 1: เสียงพยัญชนะ

- หน่วยที่ 2: เสียงสูงต่ำ (Intonation)

- หน่วยที่ 3: ระดับเสียงและความดัง

- หน่วยที่ 4: การเชื่อมเสียงและการลดเสียง

- หน่วยที่ 5: การสั่นเสียง (Vibration)

- หน่วยที่ 6: เสียง /θ/

- หน่วยที่ 7: เสียง /p, b, f/ และ /v/

- หน่วยที่ 8: เสียง /l/ และ /r/

- หน่วยที่ 9: เสียง /s/ และ /z/

- หน่วยที่ 10: เสียง /t/ และ /d/

- หน่วยที่ 11: เสียง /dʒ/, /j/, /k/

- หน่วยที่ 12: เสียง /w/, /kw/ และ /h/

- การออกเสียงคำลงท้าย /ɪz/, /ɪd/

- หน่วยที่ 14: เสียงสระ /i:/ และ /ɪ/

- หน่วยที่ 15: เสียงสระอื่น ๆ /ə/, /e/, /ɔ:/, /ɒ/

- หน่วยที่ 16: เสียง /æ/ และ /ɑ:/

- หน่วยที่ 17: เสียง /u:/ เทียบกับ /ʊ/

- หน่วยที่ 18: สระคู่และพยัญชนะ 3 เสียง /m/, /n/, /ŋ/

Part II: เรื่องราวและสถานการณ์จริง

- หน่วยที่ 19: A kiss

- หน่วยที่ 20: The race (การแข่งวิ่ง)

- หน่วยที่ 21: I have a fever (ฉันเป็นไข้)

- หน่วยที่ 22: Ordering food at a restaurant

 (การสั่งอาหารที่ร้านอาหาร)

- หน่วยที่ 23: Which dress do you like better (ชุดไหนที่คุณชอบ)

- หน่วยที่ 24: Describing people (การบรรยายลักษณะของคน)

- หน่วยที่ 25: How was your vacation (การไปเที่ยวพักผ่อน)

- หน่วยที่ 26: Giving directions (การบอกทาง)

- หน่วยที่ 27: Choosing a movie (การเลือกหนัง)

- หน่วยที่ 28: Transportations (การเดินทาง)

3. Effortless English: Automatic English Reflex

Automatic English Reflex – ระดับ 3

หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่น โดยเน้นการสร้างนิสัยในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และช่วยให้ผู้เรียนสามารถคิดและสื่อสารภาษาอังกฤษได้โดยอัตโนมัติ

หน่วยที่

เนื้อหา

หน่วยที่ 1

Fat man (คนอ้วน)

หน่วยที่ 2

Evil English Teacher (ครูภาษาอังกฤษสุดโหด)

หน่วยที่ 3

The best guitarist in the world (มือกีตาร์ที่เก่งที่สุดในโลก)

หน่วยที่ 4

Goals (เป้าหมาย)

หน่วยที่ 5

Passion and Persistence (ความหลงใหลและความพากเพียร)

หน่วยที่ 6

The queen of hot chillies (ราชินีแห่งพริกเผ็ด)

หน่วยที่ 7

Superstar - Masterminds (ซูเปอร์สตาร์ - ผู้ชาญฉลาด)

หน่วยที่ 8

I am handsome and I am cool (ฉันหล่อและฉันเท่)

หน่วยที่ 9

Emotional master (ผู้เชี่ยวชาญด้านอารมณ์)

หน่วยที่ 10

Influence (อิทธิพล)

หน่วยที่ 11

Job interview (การสัมภาษณ์งาน)

4. Effortless English: Speak English Like a Native Speaker

หลักสูตรฝึกพูดภาษาอังกฤษเหมือนเจ้าของภาษา

หนังสือ Effortless English: Speak English Like a Native Speaker ให้คำแนะนำและแบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษให้คล้ายเจ้าของภาษา รวมถึงบทสนทนาในชีวิตประจำวัน การจำลองสถานการณ์จริง และการพัฒนาคำศัพท์และไวยากรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

บทที่

เนื้อหา

บทที่ 1

วิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีกว่า

บทที่ 2

ปัญหาของการเรียนในห้องเรียน

บทที่ 3

จิตวิทยาสำคัญกว่าไวยากรณ์และคำศัพท์

บทที่ 4

ความเชื่อเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ

บทที่ 5

ภาษาอังกฤษเป็นเหมือนกีฬา

บทที่ 6

การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมเพื่อสร้างแรงจูงใจ

บทที่ 7

โปรแกรมสมองของคุณให้พร้อมสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ

บทที่ 8

เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุด – แรงบันดาลใจของ Effortless English

บทที่ 9

กฎข้อ 1: เรียนรู้เป็นวลี ไม่ใช่คำศัพท์เดี่ยว ๆ

บทที่ 10

กฎข้อ 2: การเรียนไวยากรณ์จำกัดความสามารถในการพูดของคุณ

บทที่ 11

กฎข้อ 3: เรียนรู้ด้วยการฟัง ไม่ใช่การอ่าน

บทที่ 12

กฎข้อ 4: การทำซ้ำคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการพูด

บทที่ 13

กฎข้อ 5: เรียนไวยากรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ

บทที่ 14

กฎข้อ 6: ศึกษาภาษาอังกฤษจริง ๆ และพักจากตำราเรียน

บทที่ 15

กฎข้อ 7: เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ

บทที่ 16

แผนการเรียนภาษาอังกฤษประจำวันของคุณ

บทที่ 17

พลังของการอ่านเพื่อความบันเทิง

บทที่ 18

เคล็ดลับในการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ

บทที่ 19

เหตุผลที่คุณไม่ควรฝึกพูด

บทที่ 20

ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาสากลของธุรกิจ

บทที่ 21

วิธีการนำเสนองานภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ

บทที่ 22

ภาษาอังกฤษเชื่อมโยงคุณกับโลก

บทที่ 23

หลักการและพันธกิจของ Effortless English

IV. ซื้อสื่อการเรียน Effortless English ได้ที่ไหน

เพื่อช่วยคุณประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงการซื้อหนังสือปลอมหรือหนังสือคุณภาพต่ำ PREP ได้จัดหาลิงก์สำหรับซื้อหนังสือออนไลน์และลิงก์ดาวน์โหลด Effortless English PDF มาให้คุณแล้ว!

ลิงก์สำหรับซื้อ

Tiki   

ลิงก์ดาวน์โหลด

หวังว่าข้อมูลจาก PREP เกี่ยวกับวิธีการเรียนหนังสือ Effortless English จะช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของหลักสูตรนี้ได้ดีขึ้น หากคุณยังไม่ได้เลือกหนังสือฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษเล่มไหน ลองพิจารณา Effortless English และเริ่มต้นเส้นทางการเรียนรู้ของคุณได้เลย! นอกจากนี้ หากคุณกำลังมุ่งมั่นที่จะ เรียนสอบ IELTS คุณสามารถใช้หลักสูตรนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสอบของคุณได้อีกด้วย! ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกก้าวของการเรียนรู้ค่ะ

Hien Hoang
Hien Hoang
Product Content Admin

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฮียน ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเนื้อหาผลิตภัณฑ์ที่ Prep Education
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 5 ปีในการเรียน IELTS ออนไลน์ด้วยตนเองและการเตรียมสอบอย่างจริงจัง
ฉันมั่นใจว่าสามารถสนับสนุนผู้เรียนให้ไปถึงคะแนนที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่

ความคิดเห็นความคิดเห็น

0/300 อักขระ
Loading...
เข้าสู่ระบบ
เพื่อสัมผัสเนื้อหาพรีเมียมที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

เนื้อหาแบบพรีเมียมเนื้อหาแบบพรีเมียม

ดูทั้งหมด

แผนที่เฉพาะบุคคล

discount 30% IELTS

อ่านมากที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษาแผนการเรียน

กรุณาแจ้งข้อมูลของคุณ Prep จะติดต่อเพื่อให้คำปรึกษาให้คุณทันที!

bg contact

เชื่อมต่อกับ Prep

facebookyoutubeinstagram
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์
หลักสูตร
คุณสมบัติเด่น
ห้องฝึกการเขียน IELTS AI
ห้องฝึกพูด IELTS AI
Teacher Bee AI
เชื่อมต่อกับเรา
คุณอาจสนใจ
Prep Technology Co., LTD.

Address: ตึก C.P. Tower 2 (ฟอร์จูนทาวน์) ชั้น 21 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
Hotline: +6624606789
Email: sawatdee@prepedu.com

ได้รับการรับรองโดย